เกษตรเข้มตั้งชุดปฏิบัติการร่วมตรวจสอบการตัดขายทุเรียนอ่อน จับผู้กระทำผิดพร้อมส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย สร้างความเชื่อมั่นคุณภาพทุเรียนภาคตะวันออก 

เมื่อวันที่ 11 เม.ย.64 นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตามที่กรมฯได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออก ประสานกับผู้ว่าฯจัดตั้งชุดเฉพาะกิจร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปูพรมพื้นที่ปลูกทุเรียนเพื่อตรวจสอบและสกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบตัดทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ออกขาย และให้ดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จ.ระยอง จัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ และเฝ้าระวังการตัดทุเรียนอ่อนออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง 

ล่าสุด กรมฯได้รับรายงานจากสำนักงานเกษตร จ.จันทบุรี ว่า ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการป้องกันแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ตามนโยบายป้องปรามปี 2564 อย่างต่อเนื่อง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ 1.ร่วมกับสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 บังคับและพักการใช้ใบอนุญาตเลขทะเบียน GMP ของล้ง และเลขทะเบียน GAP ของเกษตรกรในกรณีตรวจพบการตัดและการจำหน่ายทุเรียนอ่อน 2.แจ้งให้เกษตรกร ผู้ประกอบการทราบถึงมาตรการต่างๆ เช่น การกำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียนหมอนทองก่อนตัด ต้องไม่น้อยกว่า 32% ขึ้นไป และมาตรการดำเนินคดีแก่ผู้จำหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพ 3.ตั้งชุดตรวจเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็ว ชุดตรวจที่ล้งและที่สวนเกษตรกร เฉพาะกรณีที่มีการเก็บเกี่ยวทุเรียนก่อนวันประกาศวันเก็บเกี่ยว (10 เม.ย.64) และออกใบรับรองผลการตรวจความแก่ของทุเรียน ถ้าพบทุเรียนอ่อนให้คัดออก และทำสัญลักษณ์พ่นสีแดงที่ผล และพิจารณาใช้บทลงโทษขั้นสูงสุด 4.แต่งตั้งชุดเฉพาะกิจในการสุ่มตรวจ และแก้ไขปัญหาการตัดทุเรียนอ่อน ในระดับตำบล หมู่บ้าน 5.จัดทำ QR Code ติดที่ทุเรียน เพื่อให้ผู้บริโภคตรวจสอบย้อนกลับถึงเกษตรกรผู้ปลูกได้ 6.สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จัดประชุมผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ (ล้ง) เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน และมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาทุเรียนอ่อน รวมทั้งการฝึกอบรมหลักสูตรนักคัด นักตัด ทุเรียนมืออาชีพ และ 7.ตั้งจุดให้บริการตรวจความอ่อน-แก่ ของทุเรียน ณ ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ

...

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า ผลการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่และมีล้งส่งออกจำนวนมากที่สุด เบื้องต้นพบว่ามี 8 บริษัทที่มีความผิดต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งฝ่ายปกครองของจังหวัด ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ดำเนินการทางกฎหมายไว้แล้ว ในขณะที่ผลการตรวจพบทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ประมาณ 30% ส่วนใหญ่พบที่ล้งส่งออก จึงนับว่ามาตรการที่ดำเนินการมาในขณะนี้ สามารถควบคุมปัญหาได้เป็นที่น่าพอใจ และถึงแม้ขณะนี้เกษตรกรจะสามารถตัดทุเรียนขายได้ตามระบบปกติแล้ว แต่การป้องปรามก็จะยังคงดำเนินการต่อไป ตามที่ได้รับแจ้งเบาะแส เพื่อควบคุมป้องปรามทุเรียนด้อยคุณภาพออกนอกพื้นที่ รวมทั้งในช่วงนี้ต้นทุเรียนโดนลมพายุพัด ทำให้มีผลร่วงหล่น ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจฯ จึงได้เข้าตรวจตามแผงค้าส่งภายในประเทศ เพื่อป้องกันทุเรียนอ่อนเข้าสู่ตลาดบริโภคภายในประเทศอีกด้วย 

ด้านสำนักงานเกษตร จ.ตราด ได้รายงานผลการปฏิบัติงานเชิงรุกว่า เนื่องจาก จ.ตราดเป็นพื้นที่ที่จะมีผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาดก่อนจังหวัดอื่นในภาคตะวันออก จึงได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครอง เกษตร ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่ อาสาสมัครเกษตรประจำหมู่บ้าน (อกม.) และอื่นๆกว่า 20 หน่วยงาน เป็นหน่วยเฉพาะกิจระดับอำเภอทั้ง 7 อำเภอ ปฏิบัติการลงตรวจคุณภาพผลผลิตถึงสวนของเกษตรกร เพื่อสกัดกั้นทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) อย่างเข้มข้น ซึ่งหน่วยเฉพาะกิจของ จ.ตราดได้เก็บตัวอย่างทุเรียนของเกษตรกร ตั้งแต่เดือนก.พ.-11 เม.ย.64 สุ่มตรวจเปอร์เซ็นต์แป้งของผลผลิตทุเรียนก่อนการตัด 4 สายพันธุ์ จำนวนทั้งสิ้น 710 ตัวอย่าง โดยยึดเกณฑ์ดังนี้ พันธุ์หมอนทอง เปอร์เซ็นต์แป้งต้องได้ 32% ของน้ำหนักแห้งขึ้นไป พันธุ์ชะนี 30% พันธุ์กระดุม 27% และพันธุ์พวงมณี 30% โดยใช้ตู้อบไมโครเวฟ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตร ทำให้ปี 2564 นี้ มั่นใจว่าไม่มีทุเรียนด้อยคุณภาพจากพื้นที่ จ.ตราดออกสู่ตลาดแน่นอน

สำหรับบทลงโทษการซื้อขายทุเรียนที่เก็บเกี่ยวก่อนระยะเหมาะสม กรณีเกษตรกรจะพิจารณาพักหรือเพิกถอนการใช้ใบรับรองแหล่งผลิต GAP พืช เช่นเดียวกับโรงคัดบรรจุ (ล้ง) จะพักหรือเพิกถอนการใช้ใบรับรองโรงคัดบรรจุ GMP

ทั้งนี้ในปี 2564 เป็นปีแรกที่ประกาศให้มี "วันทุเรียนแก่" (10 เม.ย.64) ซึ่งเป็นวันดีเดย์ให้เกษตรกรเริ่มเก็บเกี่ยวทุเรียนพันธุ์หมอนทองภาคตะวันออก โดยไม่แยกรายจังหวัด เมื่อเกษตรกรจะเก็บเกี่ยวทุเรียนให้แจ้งความประสงค์ที่กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อกม.เพื่อแจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ให้ลงไปตรวจสอบความสุกแก่ของทุเรียน เมื่อผ่านแล้วสำนักงานเกษตรอำเภอจะออกใบรับรองเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งของเนื้อทุเรียน เฉพาะตัวอย่างแนบไปกับรถขนส่งทุเรียนเข้าโรงคัดบรรจุ พร้อมสำเนาใบรับรองแหล่งผลิต GAP พืช เพื่อคุมเข้มไม่ให้ทุเรียนอ่อนออกนอกพื้นที่ ส่วนกรณีของโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ให้แจ้งความประสงค์ที่ด่านตรวจพืช ซึ่งโรงคัดบรรจุที่รับซื้อทุเรียนจะต้องตรวจสอบใบรับรองเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งของเนื้อทุเรียนและสำเนาใบรับรองแหล่งผลิต GAP พืชจากสวนเกษตรกรด้วย เพื่อใช้ในการยื่นต่อด่านฯก่อนส่งออก

...