รถพ่วงบรรทุกดินเฉี่ยวชน จยย.บนถนนสายทับมา-เขาโบสถ์ พื้นที่ ต.ทับมา อ.เมืองระยอง ทำให้คนขี่ จยย.กระเด็นไปคนละทางเสียชีวิต 1 เจ็บ สาหัส 1 ตร.เร่งสอบหาสาเหตุดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 64 ร.ต.อ.กวีวุฒิ บุญเรือง รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งจากมูลนิธิสว่างพรกุศลว่ามีเหตุรถบรรทุกพ่วงเฉี่ยวชนรถจยย. มีผู้เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณปากซอยเข้าบ้านกำนัน ถนนสายทับมา-เขาโบสถ์ ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง ขอให้มาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุด้วย
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ของบริษัทโชคบีที หมายเลขทะเบียนหน้า 83-3970 ระยอง หมายเลขทะเบียนพ่วงหลัง 83-3971 ระยอง สภาพไถลพลิกคว่ำตะแคงอยู่บนถนนห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร ใกล้กันพบรถจยย. ยี่ห้อฟีโน่ สีเทา-ขาว หมายเลขทะเบียน ขมต 799 ระยอง สภาพล้มคว่ำอยู่ไหล่ทาง ใกล้กันบนพื้นถนนพบศพนางอารีย์ บุญมิ่ง อายุ 57 ปี ชาวบ้าน ต.ทับมา อเมือง จ.ระยอง สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นสีดำ นอนจมกองเลือดอยู่กลางถนน มีบาดแผลลึกฉกรรจ์ที่หน้าท้องและศีรษะ และนอกจากนี้ยังผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสซี่โครงหักนอนร้องด้วยความเจ็บปวดเป็นชายชื่อ นายสายชล สร้อยจิตร อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลระยองแล้ว

...
จากการสอบสวน นายนาแยะ คนดี อายุ 52 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขับรถพ่วงบรรทุกดิน มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองระยองมาด้วยความเร็ว พบนายสายชล ขับขี่รถจยย.คันดังกล่าว โดยมีนางอารีย์ นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ตนขับรถบรรทุกตามหลังมาเห็นรถจยย.ทั้งคู่อยู่ด้านหน้ารถของตนจึงเหยียบเบรกชะลอรถแล้วเพราะเห็นรถจยย.กำลังจะเลี้ยวกินเลนถนนขึ้นมา เมื่อเห็นดังนั้นตนได้พยายามโยกรถหักหลบ แต่ไม่ทัน ทำให้กระบะพ่วงท้ายด้านหลังล้อซ้าย เฉี่ยวชนรถ จยย.ของนายสายชลเข้าอย่างจัง จนทำให้ร่างของนายสายชลและนางอารีย์กระเด็นไปคนละทิศละทาง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกตัว คนขับรถบรรทุกพ่วงมาสอบสวนอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป ส่วนศพของผู้เสียชีวิต จะให้ญาติมาติดต่อรับเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป.