ระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีช่วง อ.ศรีมหาโพธิ อ.เมืองปราจีนบุรี และ อ.บ้านสร้าง เริ่มมีปริมาณสูงขึ้นไหลเข้าท่วมไร่นา บ่อเลี้ยงกุ้ง ปลา เกษตรเดอดร้อน อีกทั้งน้ำยัง่วมสถานที่สำคัญหลายแห่ง ทั้งโรงเรียน จวนผู้ว่าฯ ด้าน รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่สั่งจัดการน้ำคุมโซนไม่ให้กระทบพื้นที่อื่น และเร่งสำรวจครัวเรือนที่ประสบภัยเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท/ครัวเรือน...

เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2554 สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ปราจีนบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีช่วงอำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอเมืองปราจีนบุรี และอำเภอบ้านสร้าง เริ่มมีปริมาณสูงขึ้น ส่งผลให้ถนนปราจีนอนุสรณ์ด้านฝั่งศาลากลางหลังเก่า ถูกน้ำท่วมสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น หน้าโรงเรียนปราจีนกัลยาณี จวนผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี บ้านพักหัวหน้าศาลจังหวัดปราจีนบุรี ทำให้การจราจรเป็นไปด้วยความลำบาก โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอบ้านสร้าง น้ำได้ไหลเข้าท่วมนาข้าว บ่อเลี้ยงกุ้ง ปลา สูงกว่า 2 เมตร บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมทุกตำบลในพื้นที่อำเภอบ้านสร้าง และจากความเดือดร้อนอย่างหนักในครั้งนี้ นายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปยังวัดบางแตน อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อตรวจภาวะน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบ้านสร้าง โดยมีนายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี รายงานสถานการณ์อุทกภัยของจังหวัดปราจีนบุรี หลังจากนั้นนายฐานิสร์ เทียนทอง พร้อมคณะ ได้ลงเรือไปเยี่ยมเยียนราษฎรที่ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ราษฎร หมู่ที่ 3 ,4 ตำบลบางแตน จำนวน 150 ชุด และ หมู่ที่ 1, 4, 6, 8 ตำบลบางยาง จำนวน 200 ชุด

รัฐมนตรีช่วยว่าการะทรวงมหาดไทย ได้กล่าวกับชาวบ้านที่ประสบภัย ว่า จังหวัดปราจีนบุรีเป็นพื้นที่อยู่ในแผนการผลักดันน้ำออกสู่ทะเลทางด้านทิศ ตะวันออก ทางแม่น้ำนครนายกและแม่น้ำบางปะกง ซึ่งอาจจะได้ผลกระทบจากการระบายน้ำได้ จึงได้มอบหมายให้จังหวัดจัดเตรียมพื้นที่รองรับน้ำ โดยในระยะเร่งด่วนได้เน้นย้ำให้ส่วนราชการบูรณาการการบริหารจัดการน้ำโดยใช้ ระบบโซนนิ่ง เพื่อป้องกันมิให้การระบายน้ำไปกระทบต่อตัวจังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงน้อมนำเอาแนวพระราชดำรัสของในหลวงมาใช้ในการวางแผนป้องกัน และแก้ไขปัญหาน้ำท่วม

พร้อมกันนี้ยังได้กำชับให้ใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการประสานการดูแลและช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน พื้นที่ให้ทั่วถึง ตลอดจนเร่งสำรวจข้อมูลครัวเรือนที่ประสบภัย ที่เข้าข่ายหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท ส่งข้อมูลให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อรวบรวมและเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติกรอบวงเงินช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ในส่วนของงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัย หากวงเงินในอำนาจอนุมัติของผู้ว่าราชการจังหวัดไม่เพียงพอ นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติวงเงินช่วยเหลือจังหวัดที่ประสบภัยเพิ่มเติมจังหวัด ละ 100 ล้านบาท โดยจังหวัดก็สามารถนำงบประมาณดังกล่าว มาใช้ในการดูแลและเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยได้

...