ผลชันสูตรซากช้างป่าที่ตายในสระน้ำร้าง ใกล้หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านบ่อชะอม พบถูกยิงด้วยกระสุน .22 แต่ไม่ทำให้ถึงตาย ขณะที่อวัยวะภายในเน่าเปื่อยคล้ายถูกสารพิษ คาดระบบทางเดินอาหารล้มเหลวจากสารพิษ

กรณีพบซากช้างป่าเพศผู้มีงาลอยตายในสระน้ำร้าง ใกล้หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านบ่อชะอม เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน หมู่ 11 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ย. ต่อมา ร.ต.อ.กฤษกร กมลภพ รอง สว.(สอบสวน) สภ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี พร้อมทีมสัตวแพทย์ สบอ.2(ศรีราชา) นำโดย สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสุริยัน คลองสามสิบ หน.หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านคลองครก นายอนุพงษ์ สุขวิเศษ ปลัดอำเภอแก่งหางแมว ร่วมผ่าซากช้างป่าล้มลอยตายในสระน้ำ หลังหน่วยพิทักษ์ป่าบ้านบ่อชะอม หมู่ 11 ต.พวา ภายในสระน้ำกว้างกว่า 10 เมตร ยาวกว่า 20 เมตร พบซากช้างป่าเพศผู้อายุประมาณ 3 ปี มีงา นอนตายลอยอืดอยู่ใกล้ฝั่ง จึงใช้เชือกผูกแล้วใช้รถดึงขึ้นมาตรวจสอบบนบก

เบื้องต้นมีบาดแผลคล้ายรูกระสุนปืนเข้าตามลำตัว 3 แห่ง หลังจากนิมนต์พระสงฆ์มาสวดบังสุกุลและจุดธูปขอขมาตามความเชื่อแต่โบราณ ทีมสัตวแพทย์ได้ลงมือผ่าพบหัวกระสุนปืนขนาด .22 ฝังในซาก 1 หัว ส่วนอวัยวะภายใน เช่น ตับ ม้าม กระเพาะอาหาร ลำไส้ เน่าเปื่อยคล้ายถูกสารพิษ

...

ทีมแพทย์ ให้ข้อมูลว่า บาดแผลจากการถูกยิงไม่เป็นสาเหตุให้ช้างตาย เนื่องจากกระสุนเข้าไม่ลึก สันนิษฐานว่าสิ่งที่ทำให้ตาย เป็นเพราะระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากช้างอาจหลงกินอาหารที่มีส่วนผสมยาพิษชนิดดูดซึมมาก่อนหลายวัน จนกระทั่งมาถึงสระน้ำ ลงไปกินและล้มตายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ได้เก็บชิ้นเนื้ออวัยวะภายในไปเข้าห้องแล็บตรวจว่าเป็นสารชนิดใด ก่อนทำการฝังกลบตามหลักวิชาการ.