หยุดยาวชวนไปเที่ยว บ้านเกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ หนึ่งในแหล่งอันซีนจันทบุรี ที่สายบุญต้องมาทำบุญไหว้พระวัดเกาะเปริด แล้วไปเที่ยวผจญภัยชมธรรมชาติที่สวยงามของ "เกาะโจรสลัด" ในตำนานกว่า 160 ปี
เมื่อวันที่ 18 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.จันทบุรี มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่ง คือ บ้านเกาะเปริด (เกาะ-เปิด) อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ที่คนต่างพื้นที่มักเรียกผิดว่า เกาะเป-ริด ได้ชื่อว่าเป็นเกาะกลางทะเล โดยในปี พ.ศ.2449 ชาวบ้านได้สร้างวัดเกาะเปริดบนเกาะแห่งนี้ แต่ก็ยังคงสภาพเป็นเกาะ จนกระทั่งปี พ.ศ.2488 หลวงพ่ออวน ฉันโน เป็นเจ้าอาวาส และท่านเป็นพระเกจิทรงวิทยาคม ที่เป็นพระลูกศิษย์ของหลวงพ่อสุ่น วัดปากน้ำแหลมสิงห์ ที่ได้ชื่อว่า พระอวนไนล่อน เนื่องมาจากร่ำลือชื่อในเรื่องหนังเหนียว จากนั้นได้เริ่มมีการสร้างสะพานไม้ จนกระทั่งปี พ.ศ.2518 สมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติเห็นชอบให้ถมดินสร้างถนนเชื่อมจากแผ่นดินมายังเกาะ จนกระทั่งวัดเกาะเปริดสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2558 รวมกาลเวลาแล้ว 109 ปี
...
จากตำนานเรื่องเล่าที่ผ่านมา บ้างก็ว่าเกาะแห่งนี้ในอดีตเป็นเกาะร้าง จนถึงในสมัยก่อนชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ล่องเรือสำเภามาค้าขาย อาศัยพักค้างเกาะที่เป็นทะเลเปิด และได้ลงหลักปักฐานสร้างบ้านเรือนในเกาะแล้วเกิดโรคภัยไข้เจ็บ คือ โรคไข้มาลาเรีย อหิวาตกโรค บ้างทำให้มีผู้คนล้มป่วยล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงหนีเปิดไปจากเกาะกันหมด จึงเรียกว่า เกาะเปิด ต่อมาคนที่เข้ามาอาศัยในเกาะนี้ จึงเปลี่ยนชื่อเกาะนี้ใหม่ว่า เกาะเปริด กับ คำว่า “เก๊าะเปิด” เป็นภาษาเขมร แปลว่า กวาง เขียนเป็นภาษาไทย เปริด หรืออาจจะเป็นชื่อหมู่บ้านหรืออำเภอ มาจากภาษาเขมร และภาษาชอง ซึ่งตำบลเกาะเปริดอยู่ในเขตอำเภอแหลมสิงห์ เป็นเกาะเล็กๆ มีเนื้อที่ทั้งหมด 10 ไร่ 2 งาน เกาะเปริดแห่งนี้ แม้จะเป็นเกาะเล็ก แต่ก็มีเกาะบริวารอยู่ 2 เกาะ คือ เกาะกวาง กับเกาะนางรำ เป็นสถานที่ลับกับเหล่านักตกปลา
พระครูคำนวณ อนังคโน เจ้าอาวาสวัดเกาะเปริด กล่าวว่า นอกจากจะได้ขึ้นมาทำบุญไหว้พระบนวัดเกาะเปริดแล้ว ยังมีแหล่งประวัติศาสตร์ท้องถิ่นหลงเหลือให้เข้ามาศึกษา โดยล่องลอยบริเวณอ่าวล้ง ที่อยู่ด้านข้างวัดเกาะเปริด เช่น สุสานคนจีน หลักฐานที่ฝังศพของเหล่าเวียดนามอพยพ ในสมัยสงครามเวียดนามเหนือ เวียดนามใต้ที่เข้ามาอาศัยใต้ร่วมพระบารมีในสมัยรัชกาลที่ 9 ก่อนจะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งอ่าวล้งนี้ ยังมีท่าเรือประมงมองเห็น เกาะกวาง ที่สามารถนั่งเรือเล็กจากฝั่งโดยใช้เวลาเพียง 10 นาที เมื่อมาถึงบนเกาะกวาง จะมีหาดทรายเล็กๆ บริเวณด้านหน้าเกาะให้เดินเล่น และยังคงธรรมชาติสวยงามท้าทายนักท่องเที่ยว ให้ถ่ายภาพน้ำทะเลใส หมู่โขดหินก้อนใหญ่-น้อย มุมถ่ายภาพดวงอาทิตย์อัศดง ล่องเรือไดหมึก หรือพายเรือคายัค และมีถ้ำข้างใต้โขดหินหลายแห่ง กว้างประมาณ 3-5 เมตร แต่ความลึกไม่มีใครกล้าเข้าไปพิสูจน์ เนื่องจากทั้งตัวเกาะแม่ คือ เกาะเปริด กับ เกาะกวาง ต่างก็มีถ้ำ และในประวัติศาสตร์ ถ้ำเหล่านี้เคยเป็นที่หลบซ่อนของเหล่าโจรสลัดมาก่อน แต่ก็ยังไม่มีการพิสูจน์หรือสำรวจให้แน่ชัด
...
พระครูคำนวณ ยังเล่าต่อถึง หนังสือราชกิจจานุเบกษา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริให้มีขึ้นสำหรับเผยแพร่เรื่องต่างๆ ให้ข้าราชการและราษฎรได้รับรู้โดยทั่วกัน มีเรื่องการปล้นชิงของโจรสลัดที่เมืองจันทบุรีอยู่ครั้งหนึ่งในแจ้งความ (เรื่องแจ้ง) เรื่อง "บอกเมืองจันทบุรีเรื่องสลัด แลว่าด้วยผู้ซึ่งระแวงราชการ" เมื่อ พ.ศ.2401 แจ้งความดังกล่าวซึ่งพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงพระราชนิพนธ์ไว้มีเรื่องย่อๆ ว่า
...
พ่อค้าจีนที่กรุงเทพฯ ชื่อเล่าแช ได้ส่งชาวจีนผู้หนึ่งชื่อ จีนกิจเฉียง คุมเรือศีรษะญวน พร้อมลูกเรือ 15 คน บรรทุกใบจากและเกลือมาขายที่เมืองขลุง แต่แล้วเคราะห์หามยามร้ายก็มาเยือน หลังจากรอนแรมกลางทะเล 26 วัน มาถึงเกาะเปริด ก็เจอเข้ากับโจรสลัดที่มุ่งหน้ามาจากทางเกาะช้าง แขวงเมืองตราด จนเกิดการยิงโต้ตอบไปมา ซึ่งฝ่ายเรือสินค้าสู้ผู้ร้ายไม่ได้ จีนกิจเฉียง จึงคว้าไม้กว้านเรือกระโจนลงน้ำว่ายไปตายเอาดาบหน้า บังเอิญให้ไปพบเรือกำปั่นพระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงได้ช่วยชีวิตไว้ แล้วทรงตรัสถามถึงเหตุที่เกิดขึ้น ครั้นทรงทราบความแล้ว จึงโปรดให้นำ จีนกิจเฉียง ไปส่งที่เรือ เพื่อนำเรือแล่นเข้าปากน้ำจันทบุรีไปแจ้งแก่ฝ่ายบ้านเมืองต่อไป
...
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นอีกหนึ่งตำนานเล่าขาน ที่บอกเรื่องราวของหมู่บ้าน เกาะเปริด ที่ยังคงมีเรื่องเล่ามาจนถึงลูกหลาน และยังเหลือหลักฐานให้เห็น ที่รอให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ที่อยากทำบุญไหว้พระ และท่องเที่ยวผจญภัยได้เข้ามาสัมผัสความอันซีนที่สวยงามอีกแห่งของจันทบุรี.