ผวจ.ระยอง แถลง ทหารเกาหลีติดโควิด-19 หลังเข้ามาประชุมเตรียมฝึกคอบร้าโกลด์ ตรวจพบเชื้อหลังกลับประเทศ ล่าสุดตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิด 50 คน ผลเป็นลบ และผู้ติดเชื้ออยู่แต่ในที่พัก ไม่ได้ออกไปข้างนอก วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนก

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 พ.ย. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แถลงข่าวกรณีมีทหารประเทศเกาหลีใต้ เดินทางเข้ามาร่วมประชุมวางแผนขั้นสุดท้าย การร่วมฝึกผสมคอบร้าโกลด์ 21 ในระหว่างวันที่ 2-6 พ.ย.63 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

ปรากฏว่า หลังจากฝึกเสร็จเดินทางกลับไปประเทศเกาหลี ผลการตรวจหาเชื้อโควิด ณ สนามบินประเทศเกาหลี พบเป็นทหารเพศชาย 1 นาย อายุ 32 ปี ติดโควิด-19

จากการตรวจสอบไทม์ไลน์เส้นทางทราบว่า

ในวันที่ 16 ต.ค. 63 ทหารรายดังกล่าวเดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้เข้าไทย กับเพื่อนอีก 3 คน

วันที่ 17 ต.ค. - 1 พ.ย. 63 เข้ารับการกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ

วันที่ 22 ต.ค. 63 ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 (SARS-COV -2 not detected) ไม่พบ

วันที่ 29 ต.ค. 63 ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 (SARS-COV -2 not detected) ไม่พบ

วันที่ 1 พ.ย. 63 เวลา 09.00 น. เข้าพักที่โรงแรมย่านสุขุมวิท 20 กรุงเทพฯ

วันที่ 2 พ.ย. 63 รถของกองอำนวยการฝึกมารับเดินทางไปที่โรงแรมสิรินพลา ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ก่อนจะกลับโรงแรมย่านสุขุมวิท 20

วันที่ 3 -5 พ.ย. 63 รถของกองอำนวยการฝึกมารับไปที่โรงแรมใน จ.ระยอง 

วันที่ 6-7 พ.ย. 63 พักที่โรงแรมย่านสุขุมวิท 20

วันที่ 8 พ.ย. 63 รถของกองอำนวยการฝึก ไปส่งทหารรายดังกล่าวพร้อมเพื่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางกลับประเทศเกาหลี ก่อนที่จะตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ที่สนามบินประเทศเกาหลี

...

ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดระยอง จากการติดตามเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงทหารไทยที่ร่วมประชุม 68 นาย เป็นทหารร่วมประชุมใกล้ชิด 50 นาย เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้ว ทราบผลวันนี้ (11 พ.ย.63) ทั้ง 50 ราย ผลเป็นลบ และมีการเฝ้าระวังในกลุ่มเสี่ยงต่ำ เป็นทหารและบุคลากรโรงแรมอีก 28 คน เฝ้าระวังสังเกตอาการและกักตัวในบ้านพักของทหารเรือทุกคน ส่วนทหาร 50 นาย กลุ่มเสี่ยงสูงทั้งหมด ถูกกักกันตัวที่อาคารเรือนรับรองสัตหีบ ตั้งแต่วันที่ 8-21 พ.ย.63

อย่างไรก็ตาม ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป ซึ่งเราสามารถสร้างเกราะป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 ได้ โดยใช้มาตรการเว้นระยะห่าง Social Distancing สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ ไปไหนขอให้ลงทะเบียนไทยชนะไว้เป็นข้อมูล และกรณีเกิดข่าวลือต่างๆ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารของทางราชการอย่างชัดเจนก่อน ซึ่งเรามีบทเรียนกรณีทหารอียิปต์มาแล้ว ครั้งนี้ทหารที่มาไม่ได้เดินทางออกไปไหนเลย โอกาสที่จะแพร่กระจายนั้นเป็นไปได้ยาก