เมียสาวดอดมอบตัวตำรวจกลางดึกยอมสารภาพฆ่าผัวจัดฉากเป็นคดีอุบัติเหตุ อ้างวันเกิดเหตุไปนั่งกินข้าวกับหนุ่มอีกคน ผัวตามเจอพากลับมาเคลียร์กันที่บ้านและมีปากเสียงกัน ผู้ตายโมโหจะเอามีดแทง แต่หนุ่มคนสนิทตามไปช่วยผลักอกสามีล้ม เมียได้ทีคว้าไม้กระหน่ำตีหน้าเละตายคามือ แล้วช่วยกันนำร่างใส่รถกระบะขับไปทิ้งอำพรางเป็นรถตกถนน ด้านหนุ่มคนรู้ใจหลังรู้ตัวเป็นผู้ต้องสงสัยโร่พบตำรวจยอมรับสิ้นไส้
จากเหตุการณ์พบศพนายพิธยุทธ โพธิ์ภักดี อายุ 42 ปี ชาว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในรถกระบะอีซูซุ แค็บ สีขาว ทะเบียน บพ 8390 เพชรบุรี ริมถนนสายบายพาสชะอำ-ปราณบุรี ฝั่งล่องใต้ บริเวณสี่แยกหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เพชรบุรี ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี วันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา มีบาดแผลที่ใบหน้าบวมปูด จมูกและใต้คางมีแผลคล้ายถูกทุบด้วยของแข็ง สภาพรถไม่มีร่องรอยของความเสียหาย ขณะที่ญาติผู้ตายมั่นใจเป็นการจัดฉากอำพรางและสงสัยว่าเมียนายพิธยุทธน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ต่อมาช่วงดึกวันที่ 14 ก.ค. น.ส.สุมาริน หรือปุ๋ย ยอดทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 10 ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภรรยานายพิธยุทธเข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่านายพิธยุทธ อ้างสาเหตุเพราะผู้ตายจะใช้มีดเข้ามาแทง ทำให้หนุ่มที่คบหากันวิ่งเข้ามาช่วยผลักสามีล้ม ก่อนที่ตนจะคว้าไม้กระหน่ำตีใบหน้าผู้ตายจนสลบ ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าเสียชีวิตหรือไม่ ก่อนนำร่างขึ้นรถกระบะนำไปจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ กระทั่งญาติสามีกดดัน จึงยอมรับสารภาพ หลังตำรวจประสานท้องที่เกิดเหตุ สภ.บ้านหนองพลับ อ.หัวหิน พาผู้ต้องหาตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมภายในห้องเช่าของนางสุมาริน ในพื้นที่ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน
...
ด้านนางอุไร ยอดทอง แม่ของ น.ส.สุมาริน เปิดเผยว่า น.ส.สุมาริน ลูกสาวเข้ามาสารภาพกับพ่อและแม่ว่าวันเกิดเหตุมีเรื่องทะเลาะกับนายพิธยุทธอย่างรุนแรง กระทั่งก่อเหตุดังกล่าวขึ้น แต่พ่อของ น.ส.สุมารินไม่เชื่อว่าลูกสาวจะทำเพียงคนเดียวได้ ต้องมีผู้ร่วมลงมือด้วย
บ่ายวันเดียวกัน นายปฏิกรณ์ หรือปอง สวัสดิสรรพ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ 7 ต.หนองพลับ อ.หัวหิน หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยเข้าพบตำรวจ สภ.บ้านหนองพลับ มี พ.ต.อ.ชนินทร์ เดชชีวะ ผกก.สภ.บ้านหนองพลับ ร่วมสอบปากคำ รับสารภาพว่า ร่วมกับ น.ส.สุมารินทำร้ายนายพิธยุทธถึงแก่ความตาย ก่อนเกิดเหตุนายพิธยุทธขับรถตามไปพบ น.ส.สุมารินกับนายปฏิกรณ์นั่งรับประทานอาหารภายในสวนอาหารแห่งหนึ่งที่หัวหิน ด้วยความหึงหวงจึงมีปากเสียงลงไม้ลงมือ ผู้ตายบังคับให้ น.ส.สุมารินกลับไปเคลียร์กันที่บ้านและมีปากเสียงกันอีก นายพิธยุทธโมโหคว้ามีดจะแทง แต่นายปฏิกรณ์ตามไปแอบดูอยู่ด้านนอกเห็นเข้าไปช่วยผลักนายพิธยุทธล้มคว่ำ น.ส.สุมารินจึงใช้ไม้วางอยู่ข้างๆตีใบหน้าและศีรษะหลายครั้งเสียชีวิต และกลัวความผิดนำศพใส่รถกระบะไปจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ โดยทั้งสองอ้างว่าทำเพียง 2 คนเท่านั้น
ขณะเดียวกัน นายเสวียน โพธิ์ภักดี อายุ 63 ปี และ น.ส.เยาวภา โพธิ์ภักดี อายุ 39 ปี พ่อและน้องสาวนายพิธยุทธ นิมนต์พระสงฆ์จากวัดทับกระดาน หมู่ 2 ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง ไปทำพิธีเชิญดวง วิญญาณของนายพิธยุทธที่ห้องเช่าดังกล่าวกลับบ้านเกิดที่ อ.สองพี่น้อง เพราะเชื่อว่านายพิธยุทธถูกทำร้ายเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในที่เกิดเหตุก่อนถูกผู้ต้องหาเอาศพขึ้นรถกระบะไปจัดฉากอำพรางเป็นอุบัติเหตุ
ส่วนที่วัดทับกระดาน สถานที่ตั้งศพนายพิธยุทธ ภายหลังญาติทราบข่าวว่า น.ส.สุมารินเข้ามอบตัวต่างเรียกร้องให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด นายวิเชียร สิงห์อุดม อายุ 71 ปี ลุงผู้ตาย เปิดเผยว่า อยากให้ น.ส.สุมารินและผู้ร่วมก่อเหตุมาขอขมาศพนายพิธยุทธ เพื่อที่หลานชายจะได้ตายตาหลับ