เคลื่อนศพน้องกานต์กลับจันทบุรี สถาบันนิติเวชแจ้งผลว่าสภาพศพเน่ามาก ไม่สามารถตรวจสาเหตุการตายได้ชัดเจน ขณะพระลูกวัดโป่งแรด เพื่อนพ่อน้องกานต์ เผยพื้นที่นี้ตัวเงินตัวทองเยอะอาจมารุมทึ้งศพ

จากกรณี "น้องกานต์" หนูน้อยวัย 6 ขวบ ที่หายออกจากบ้านพักในพื้นที่ ม.2 บ้านโป่งแรด ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี ร่วม 2 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ระดมกำลังกันค้นหา แต่จนถึงเมื่อคืนนี้ก็ยังไม่พบตัว ต่อมาเจ้าหน้าที่พบ "น้องกานต์" แล้ว สภาพเสียชีวิตอยู่ในป่ายาง พื้นที่ หมู่ 2 ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี ซึ่งห่างจากบ้านของน้องประมาณ 200-300 เมตร ในสภาพเหลือครึ่งตัว ไม่มีแขน โดยเจ้าหน้าที่มุ่งสาเหตุการเสียชีวิต น่าจะเกิดจากการถูกสัตว์หรือสุนัขทำร้าย และทางเจ้าของสวนในพื้นที่ ก็ได้ให้ความร่วมมือ ให้ จนท.ตรวจสอบพร้อมเก็บดีเอ็นเอจากซอกฟันสุนัขเจ้า "มะปี๊ด" สุนัขพันธุ์พิตบูลเทอร์เรีย ของเจ้าของสวน ทั้งนี้สาเหตุต้องรอผลการชันสูตรของแพทย์ยืนยันอีกครั้ง

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อบ่ายวันนี้วันที่ 9 ก.ค. 63 ที่ ศาลาสินสุขเพชรญาณราษฎร์ร่วมใจ ภายในวัดโป่งแรด ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี นายสุทธิเกียรติ นนธิจันทร์ อาของน้องกานต์ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ได้เคลื่อนศพน้องกานต์ จากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ มาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล หลังจากเดินทางไปรับศพตั้งแต่เวลา 04.00 น. ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศมีเพียงญาติพี่น้อง ตลอดจน พระบังเอิญ คุตขิตโต พระลูกวัดโป่งแรด ที่สนิทคุ้นเคย รวมไปถึงคณะครู โรงเรียนวัดโป่งแรด (ปคุณวิทยาคาร) และชาวบ้านที่รู้จักครอบครัวน้องกานต์ ต่างมาร่วมรับร่างไร้วิญญาณของน้องกานต์ด้วยอาการโศกเศร้า แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด

...

จากการสอบถามทราบว่า พระบังเอิญ คุตขิตโต พระลูกวัดโป่งแรด ซึ่งสมัยเด็กๆ เคยเป็นเพื่อนวิ่งเล่นกับ นายสุขุม สาทิพย์จันท์ พ่อน้องกานต์ รวมไปถึง นายสุทธิเกียรติ อาของน้องกานต์ และถือว่ามีความสนิทคุ้นเคยกันอย่างดี เหมือนเป็นญาติพี่น้อง หลังจากทราบข่าว ก็รู้สึกเสียใจ ที่เกิดเรื่องไม่ดีกับครอบครัวของเพื่อนสนิท จึงได้พร้อมกับพระในวัด และญาติโยม ช่วยจัดเตรียมงานบำเพ็ญกุศลให้กับน้องกานต์เรียบร้อยง่ายตามกำลังสภาพ เนื่องจากทราบว่า ครอบครัวน้องกานต์ มีฐานะค่อนข้างยากลำบาก ซึ่งอันไหนพอช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ก็นำมาช่วยกัน หรือมาลงแรงช่วยกันเตรียมงาน

พระบังเอิญ คุตขิตโต กล่าวให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ในพื้นที่ว่า สัตว์ที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง กับสาเหตุการเสียชีวิตของน้องกานต์ ที่น่าจะเกิดจากตัวเงินตัวทอง ทั้งนี้ เนื่องจากตนเป็นคนพื้นที่ดั้งเดิมเคยเลี้ยงเป็ดไก่ เคยเจอสุนัขตาย สัตว์ตายอยู่ริมคูร่องน้ำ หรือลักษณะที่ใกล้เคียงกับน้องกานต์ ก็จะพบเห็นตัวเงินตัวทองเข้าไปกินส่วนมาก ซึ่งพฤติกรรมสุนัขไม่กินเนื้อสัตว์เน่า อาจเพียงคุ้ยเขี่ยให้เกิดกลิ่นเท่านั้น อีกทั้งอดีตตนเองเคยเป็นพรานป่าจะคลุกคลีอยู่กับสัตว์ประเภทนี้ ในพื้นที่จึงมักพบ ตัวเงินตัวทองชุกชุม และตัวใหญ่ แม้แต่ข้างวัดยังคงมีให้พบเห็นอยู่ ตัวใหญ่ น้ำหนักน่าจะหลายสิบกิโลกรัม และอยู่กันเป็นฝูง

พระลูกวัดโป่งแรด กล่าวต่อว่า หากดูจากพฤติกรรมหรือลักษณะการหากิน ในส่วนตัวของพระกับเหตุการณ์นี้ เชื่อว่า ในวันที่ น้องกานต์ หายตัวมีฝนตกหนัก ซึ่งน้องอาจถูกสัตว์มีพิษกัด และจะทำให้เกิดอาการร้อน หรือกระหายน้ำ จึงทำให้น้องน่าจะถอดเสื้อ และลงไปในคูร่องน้ำ จนพลัดตกและจมน้ำเสียชีวิต เมื่อศพจมน้ำจะทำให้เน่าเร็วกว่าปกติ และดึงดูดให้ตัวเงินตัวทอง มารุมทึ้งกินศพจนทำให้เศษอวัยวะบางส่วน กระจายหายไป แต่อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริง คงต้องขึ้นอยู่กับการทำงานตามหลักการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสำคัญ

สำหรับ ในส่วนกำหนดการบำเพ็ญกุศลศพ น้องกานต์ ในเบื้องต้น นายสุทธิเกียรติ พร้อมครอบครัวได้ปรึกษากับพระชั้นผู้ใหญ่ จะประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล จำนวน 3 คืน โดยคืนนี้ (9 ก.ค.) เป็นคืนแรกในการสวดพระอภิธรรม ส่วนกำหนดการฌาปนกิจนั้นยังไม่ได้สรุป ซึ่งหากนับวันแล้วไม่ติดขัดในเรื่องใด คาดว่าก็จะประกอบพิธีฌาปนกิจ ในวันอาทิตย์

ส่วน ผลการชันสูตรศพ น้องกานต์ ทางสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ โดยทาง พ.ต.อ.วาที อัศวุฒมางกุร รองโฆษก รพ.ตำรวจ เปิดเผยว่า เบื้องต้นผลการชันสูตรร่างน้องกานต์ แพทย์ระบุว่า สภาพศพเน่าเสียมาก จึงไม่สามารถตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนได้ โดยหลังจากนี้จะนำชิ้นส่วนเข้าห้องแล็บ เพื่อเข้าสู่การตรวจตามขั้นตอนกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน จึงจะทราบผลที่ชัดเจน.

...