อนาถใจ คุณยายวัย 68 ที่จันทบุรี กระดูกสะโพกเคลื่อน ออกมาก่อไฟผิงแก้หนาว พลาดหน้าคะมำหัวทิ่มล้มใส่กองไฟ ลุกไม่ได้ ถูกไฟคลอกทั้งเป็นจนร่างเกรียมครึ่งตัว เสียชีวิตคาบ้าน ลูกตามมาดูแล ช่วยไม่ทัน


เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. 62 ร.ต.อ.กรีฑาพล มีมุข รอง สว.(สอบสวน) สภ.นายายอาม ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ว่ามีเหตุหญิงชราถูกไฟไหม้คลอกร่างเสียชีวิต ขณะก่อไฟผิงแก้หนาว โดยเหตุเกิดบริเวณบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านสระแคร์ ม.11 ต.ช้างข้าม อ.นายายอาม จ.จันทบุรี หลังได้รับแจ้งได้พร้อมตำรวจสืบสวน แพทย์เวร รพ.นายายอาม และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ร่วมเดินทางตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่หน้าบ้านพักปูนชั้นเดียว พบศพของ น.ส.เจือม อยู่ดี อายุ 68 ปี เจ้าของบ้าน อยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่ในกองไฟที่มอดแล้ว ข้างกองไม้ฟืน สภาพศพสวมใส่เสื้อคอกระเช้าสีดำลายดอก ผ้าถุงสีม่วง มีบาดแผลถูกไฟไหม้คลอกร่างเกรียมไปครึ่งตัว แขนซ้ายถูกไฟไหม้จนขาดออกจากลำตัว ใกล้กันพบไม้เท้าช่วยพยุง 4 ขา วางพิงเสาอยู่หน้าบ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน

...


น.ส.สุวรรณ พวงบุญชู อายุ 47 ปี ชาวบ้าน ม.11 ต.ช้างข้าม ลูกสาวของ น.ส.เจือม ผู้ตาย ให้การว่า ปกติ น.ส.เจือม ผู้เป็นแม่ พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง ส่วนตัวเองพักอยู่กับครอบครัวห่างจากบ้านแม่ ที่เกิดเหตุไปประมาณ 1 กม. ซึ่ง น.ส.เจือม ผู้เป็นแม่ ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัวเองเวลาเดิน เนื่องจากพิการทางกระดูก สะโพกเคลื่อน หลังจากเคยประสบอุบัติเหตุล้มในบ้านเมื่อหลายปีก่อน โดยเมื่อวันก่อนแม่ได้เคยบอกกับตนว่า อยู่บ้านหนาวมาก อยากจะก่อไฟผิง ส่วนตัวก็ได้เตือนว่าให้ระวังด้วย โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มาหาแม่ที่บ้านตามปกติ ก็เห็นแม่ตัวเองอยู่ในสภาพนอนล้มคว่ำหน้าทับกองไฟอยู่หน้าบ้าน จึงรีบเข้าไปช่วยพลิกตัวก็พบว่าแม่ถูกไฟไหม้คลอกร่างเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าขณะเกิดเหตุ น.ส.เจือม ได้ออกมาจากบ้านทำการก่อไฟผิงแก้หนาว โดยไม่ได้ใช้ไม้เท้าพยุงออกมาด้วย ในระหว่างที่กำลังก้มหน้าสุมไฟ เกิดเสียหลักหน้าถลำล้มคะมำเข้าใส่กองไฟ และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงทำให้ถูกไฟไหม้คลอกร่างเสียชีวิต ทั้งนี้ สาเหตุที่แท้จริงยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ โดยทางตำรวจได้ตรวจสอบและบันทึกภาพร่องรอยบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำญาติบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำมาประกอบกับผลการตรวจชันสูตรของแพทย์เวร เพื่อสรุปสาเหตุที่แน่ชัดก่อนมอบศพให้ญาตินำกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป.