พงส.คดียิงสนั่นศาลจันทบุรี ดับ 3 เรียกกู้ภัยฯไปให้ปากคำเพิ่มเติม ขณะชุดสอบ "ร.ต.อ." เจ้าของปืนสังหารอดีตจเรตำรวจ เผยคว้าปืนประจำกายหมายไประงับเหตุ แต่อาจเกิดลังเลเพราะมีโรคประจำตัว  

วันที่ 19 พ.ย. 62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองจันทบุรี ติดตามความคืบหน้า ของคดียิงในศาลจันทบุรี หลังจาก พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตจเรตำรวจ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่ทนายและโจทย์ เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ก่อนที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ จะมาถูก นายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนาย นำอาวุธปืนจาก ร.ต.อ.ขจร บรรจง รอง สวป.ปฏิบัติงานตำรวจศาล มายิงใส่จนเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์นองเลือดดังกล่าวเกิดขึ้นหน้าบัลลังก์ห้องพิจารณาคดีศาลจันทบุรี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา

พ.ต.ท.ปิติ พานิช รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี ร.ต.อ.ศรีจันทร์ เรือนเงิน รอง สว.(สอบสวน) หนึ่งในทีมสอบสวนคดีนี้ ช่วยสนับสนุนการทำงานของ ร.ต.อ.หญิง ปัญญาพร ศรีชาย รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี เร่งสำนวนให้เกิดความรวดเร็ว รอบคอบ และรัดกุมมากที่สุด ได้เรียกชุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ที่ในวันเกิดเหตุได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ปฐมพยาบาลและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ผู้ที่อยู่ห้องพิจารณาคดี มาสอบปากคำ

ทั้งนี้ พยานที่เข้ามาให้ปากคำมี นายชาติ แจ้งเจริญ หัวหน้าแผนกกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูฯ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ อีก 2 คน โดยการสอบสวนใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายชาติ แจ้งเจริญ หัวหน้าแผนกกู้ภัยฯ หลังจากได้เข้าให้ปากคำ ทราบว่า มีการสอบถามในเรื่องการปฏิบัติงานของชุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ในวันเกิดเหตุ โดยในวันนั้นหลังจากได้รับแจ้งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ โดยไม่ทราบเป็นเหตุใช้อาวุธยิงกัน เมื่อขึ้นไปถึงห้องพิจารณาคดีพบว่า มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หมอ และพยาบาล อยู่ในห้องที่เกิดเหตุแล้ว จากนั้นจึงได้กระจายกำลังสนับสนุนการทำงานของทางหมอและพยาบาล พร้อมทั้งประสานรายงานให้กับทีมแพทย์ รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี ก่อนจะรับคำสั่งให้ดำเนินการเคลื่อนย้ายลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้ง 5 รายส่ง รพ.พระปกเกล้าฯ และ รพ.จันทบุรีกรุงเทพ โดยไม่ทราบว่าผู้บาดเจ็บทั้ง 5 รายเป็นใครบ้าง

...

ในส่วนที่พนักงานสอบสวนได้ซักถามว่า มีผู้บาดเจ็บได้มีการพูดคุยบอกเล่าหรือไม่ว่าใครเป็นใคร หรือใครเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งในช่วงขณะนั้นจากการประเมินอาการผู้บาดเจ็บทั้งหมดอยู่ในอาการได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ได้สติ โดย 1 ใน 5 ราย ที่จะพอมีสติ ส่งเสียงร้องจากอาการบาดเจ็บเพียงเท่านั้น ไม่มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด

นายชาติ กล่าวอีกว่า ขณะที่กู้ภัยฯ เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในวันนั้นก็พบว่า มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่ศาล อยู่กันครบถ้วนแล้ว เพราะเข้าไปหลังที่เกิดเหตุการณ์ไปแล้วราว 10 นาที ซึ่งเหตุการณ์ได้จบลงไปแล้ว ประกอบกับหน้าที่หลักของกู้ภัยฯ มุ่งไปที่การให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บมากกว่า จึงไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ หรือทำอะไรบ้าง เนื่องจากเหตุการณ์ยิงกันครั้งนี้เกิดก่อนที่ทีมกู้ภัยฯ จะเดินทางไปถึง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ทาง พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 ได้เรียกคณะกรรมการสอบสวน ตั้งแต่ รอง ผบก.ภ.จ.จันทบุรี, ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี และชุดสอบสวนในคดีนี้เข้ารายงานความคืบหน้าเพื่อเร่งรัดการดำเนินคดี และฟังการสอบสวนกรณีของ ร.ต.อ.ขจร ซึ่งเป็นตำรวจศาล ส่งปืนให้ นายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนาย ยิง พล.ต.ต.ธารินทร์

“จากการสอบสวน ร.ต.อ.ขจร ที่ปฏิบัติงานตำรวจศาล จ.จันทบุรี เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ได้ยินเสียงปืน จึงคว้าปืนประจำกายหมายไประงับเหตุ แต่ด้วยที่ ร.ต.อ.ขจร มีโรคประจำตัวเคยรักษาพยาบาลมาก่อน จึงอาจจะเกิดความลังเลในขณะปฏิบัติหน้าที่ เพราะเป็นตำรวจที่ทำงานด้านเอกสาร และอยู่ที่ศาลจังหวัดจันทบุรี ซึ่งกำลังสอบสวนให้กระจ่างมากกว่านี้ และให้ความเป็นธรรม แต่รู้ว่า ร.ต.อ.ขจร มีความตั้งใจที่จะระงับเหตุ เพราะการระงับเหตุต้องตัดสินเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งหากพบว่า ร.ต.อ.ขจร ทำงานบกพร่อง ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่หากไม่ผิดจะต้องสอบสวนให้ปรากฏชัดว่าไม่ผิด ซึ่งขณะนี้ผลของคดีทางการสอบสวนต้องรอวิถีกระสุน พยานแวดล้อม และที่เกิดเหตุ ดูภาพวงจรปิดเส้นทางต่างๆ ซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน”

ส่วนหลังเหตุการณ์สงบ ขณะนั้น พล.ต.ต.ธารินทร์ ที่เป็นคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่น ด้วยเหตุซึ่งหน้า ตำรวจจึงต้องควบคุมโดยล็อกกุญแจไว้ก่อน เพราะขณะนั้น  พล.ต.ต.ธารินทร์ ยังไม่เสียชีวิต และมีอาวุธปืนอยู่ข้างกาย.