เมียเอาปืน-มีด แอบซ่อนไปให้
จนมุมแล้ว 3 ผู้ต้องขังแทงตำรวจปางตายก่อนแหกห้องขังหนีศาลจังหวัดพัทยา ตำรวจไล่ล่ากระชั้นจนต้องจอดรถเก๋งทิ้งในหมู่บ้าน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เดินเท้าหนีเข้าป่าอ้อย ถูกปิดล้อมกดดันข้ามคืนสุดท้ายหนุ่มไทยหัวโจกยอมมอบตัว ส่วนหนุ่มฝรั่งไม่ยอมให้ถูกจับ จ่อยิงเมียก่อนลั่นไกยิงตัวเองหมายฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ถูกช่วยเหลือส่งโรงพยาบาล เผยสาเหตุที่หลบหนีมีแรงจูงใจจากความกดดันในครอบครัว ไม่มีการจ้างวาน แฟนสาวเป็นคนเอาปืนกับมีดเข้าไปให้ใต้ถุนศาลก่อนให้พรรคพวกมารับพาหนีกันไปเป็นทอดๆ มีผู้ร่วมก่อเหตุ 10 คนถูกล็อกตัวไว้หมดแล้ว ตั้งใจจะหนีข้ามแดนไปฝั่งเขมรแต่ตำรวจรู้เบาะแสไล่ล่าสุดท้ายไม่รอด
จากเหตุการณ์ 3 ผู้ต้องขังคดียาเสพติดแหกห้องขังหนีไปจากศาลจังหวัดพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ประกอบด้วยนายบาร์ท อันเลน เฮลมัส อายุ 39 ปี ชาวอเมริกัน น.ส.สิรินภา วิเศษฤทธิ์ อายุ 30 ปี แฟนสาวชาวไทย และนายหน่อย หรือต้น นิลเทศ อายุ 40 ปี ใช้มีดแทง ร.ต.อ.ธนะเมศฐ์ โพธิพันธ์ รอง สวป.สภ.สัตหีบ ช่วยราชการศาลจังหวัดพัทยา บาดเจ็บสาหัส แล้วยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าวิ่งไปขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่หน้าศาลหลบหนีไปเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 พ.ย. รุ่งขึ้นตำรวจพบรถกระบะจอดทิ้งไว้ริมถนนในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล็อกตัวผู้ช่วยเหลือพาหลบหนีได้ 3 คน ขณะที่กลุ่มผู้ต้องหานั่งรถเก๋งมิตซูบิชิมิราจหลบหนีอีกทอดมุ่งหน้าไปทาง จ.สระแก้ว
ในที่สุดตำรวจใช้เวลาเพียง 2 วันสามารถ ติดตามจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องขังแหกศาลหนีทั้ง 3 คนได้เป็นผลสำเร็จ โดยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 พ.ย. พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จ.สระแก้ว ได้รับรายงานว่า พบรถเก๋งมิตซูบิชิมิราจ สีขาว ทะเบียน ขต 4930 ชลบุรี ที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้หลบหนี ถูกจอดทิ้งไว้ริมถนนหมู่ 8 บ้านเขาจาน ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร เขตรอยต่อ อ.เขาฉกรรจ์ และ อ.วังน้ำเย็น จึงสั่งการระดมกำลังตำรวจท้องที่ ตำรวจภูธรภาค 2 และ ตชด. รวมกว่า 300 นาย กระจายปิดล้อมพื้นที่ตั้งแต่สี่แยกบ้านคลองมะนาว ต.ท่าเกวียน ไปยังเขตรอยต่อ 3 อำเภอ
...
ขณะเดียวกัน ตำรวจเชิญผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้าน บ้านเขาจานที่เห็นรถคนร้ายขับเข้ามาจอดมาให้ข้อมูล ทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วยและผู้นำพาขับรถเข้ามาจอด ก่อนที่ทั้งหมดจะลงจากรถเดินเท้าเข้าไปยังไร่นาของชาวบ้านพื้นที่เขตรอยต่อบ้านเขาจาน บ้านทับช้าง และบ้านหนองปลาเข็ง รอยต่อพื้นที่ 3 อำเภอ อยู่ห่างชายแดนไทย-กัมพูชาประมาณ 20-30 กม. เจ้าหน้าที่ประกาศเตือนผู้ใช้รถที่ผ่านเส้นทางดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังตัวเกรงว่าคนร้ายอาจจะปล้นรถเพื่อหลบหนีต่อ
ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 6 พ.ย. พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ประจำ ตร. พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.สส.ภ.2 พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จ.สระแก้ว ลงพื้นที่บัญชาการที่สถานีตำรวจชุมชนบ้านคลองมะนาว หมู่ 8 ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร พร้อมตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณวงเวียนบ้านคลอง มะนาว หลังมีชาวบ้านเห็นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมผู้นำพามาที่บ้านร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านเขาสามสิบ ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ ก่อนจะเดินเท้าเข้าป่าอ้อยไปในช่วงเย็นวันที่ 5 พ.ย. มีรายงานด้วยว่า กำลังตำรวจได้ควบคุมตัวผู้นำพาผู้ต้องหาหลบหนีอีกชุด 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นคนขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำนำหน้ารถเก๋งมิตซูบิชิมิราจของกลุ่มผู้ต้องหาเข้ามาในพื้นที่ จ.สระแก้ว
หลังจากเจ้าหน้าที่กระจายกำลังปูพรมไล่ล่าก็ประสบความสำเร็จในช่วงเที่ยงวันเดียวกัน สามารถควบคุมตัวคนขับรถเก๋งมิตซูบิชิมิราจที่พาผู้ต้องหาทั้ง 3 คนหลบหนีได้คือ น.ส.สุนิษา หรือหนิง คำหาญ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนายหน่อย นิลเทศ หนึ่งในผู้ต้องหาที่หลบหนี และ น.ส.รุ่งนภา หรือแนน รุ่งรัศมี อายุ 27 ปี เพื่อนของ น.ส.สุนิษา จากนั้น น.ส.สุนิษาโทรศัพท์ไปเกลี้ยกล่อมนายหน่อยให้ยอมมอบตัว พร้อมบอกพิกัดให้ตำรวจเข้าไปควบคุมตัวได้ขณะนอนหมดแรงอยู่ในป่าอ้อยพื้นที่หมู่ 8 บ้านเขาจาน ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร พร้อมปืน 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุ ตำรวจควบคุมตัวทั้ง 3 คนไปสอบปากคำที่ สภ.วัฒนานคร
ต่อมาเวลา 13.00 น. ตำรวจกระจายกำลังออกตามหานายบาร์ท และ น.ส.สิรินภา ผู้ต้องหาอีก 2 คนที่วิ่งหลบหนีไปด้วยกัน กระทั่งพบตัวทั้งคู่ซุกซ่อนตัวอยู่ในป่าอ้อยห่างจากจุดที่นายหน่อย ยอมมอบตัวประมาณ 700 เมตร เมื่อหันมาเห็นตำรวจ นายบาร์ทใช้ปืนจี้จับล็อกคอ น.ส.สิรินภา เมียตัวเองเป็นตัวประกัน ก่อนหันปากกระบอกปืนมายิงใส่ตำรวจ 2 นัดเพื่อข่มขู่ไม่ให้เข้าใกล้ ตำรวจต้องกระจายกำลังโอบล้อมไว้ แล้วทันใดนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อนายบาร์ทลั่นไกจ่อยิงศีรษะ น.ส.สิรินภา 1 นัด ก่อนหันปากกระบอกปืนยิงหัวตัวเองอีก 1 นัด ล้มฟุบอยู่ข้างกัน ตำรวจเข้าไปตรวจสอบพบว่าทั้งคู่บาดเจ็บสาหัสยังหายใจรวยริน รีบช่วยเหลือนำส่ง รพ.เขาฉกรรจ์ ก่อนส่งต่อ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ส่วนปืนที่นายบาร์ทใช้ก่อเหตุเป็นปืนไทยประดิษฐ์บรรจุกระสุนปืน .22 ตำรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ประจำ ตร. เผยว่า จากการสอบปากคำนายหน่อย หัวโจกที่ก่อเหตุทราบว่า สาเหตุที่หลบหนีมีแรงจูงใจจากความกดดันครอบครัว ไม่มีการว่าจ้างหรือขบวนการใดๆ แค่ร่วมกันหลบหนีกับนายบาร์ทและเมียสาวที่ตั้งท้อง 3 เดือน ได้รับความช่วยเหลือจากแฟนสาวและพรรคพวกของนายหน่อยรวมประมาณ 10 คน อยู่ระหว่างสอบสวนผู้ร่วมพาหลบหนีที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ทั้งหมดแล้ว การทำงานของตำรวจเป็นไปด้วยความรัดกุมและร่วมมือกันเป็นอย่างดีทั้งจากตำรวจสระแก้วและภูธรภาค 2 จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้
มีรายงานจากชุดจับกุมว่า ปืนและมีดที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุที่ศาลจังหวัดพัทยา มีแฟนสาวของนายหน่อยนำไปให้ที่ใต้ถุนศาลตอนไปเยี่ยมระหว่างรอขึ้นศาล จากนั้นโทร.บอกพรรคพวกให้มารับพาหลบหนีกันไปเป็นทอดๆ ตั้งใจจะหนีออกชายแดนกัมพูชาที่ จ.สระแก้ว แต่เมื่อวันที่ 5 พ.ย. มีเพื่อนที่ร่วมพาหลบหนีถูกตำรวจคุมตัวไปเค้นสอบสวนจนทราบเบาะแสรถเก๋งที่ใช้ ถูกติดตามไล่ล่าเห็นจวนตัวต้องจอดรถแล้วเดินเท้าหลบหนี แต่สุดท้ายไม่รอด
...
นายหน่อยยอมมอบตัว ส่วนนายบาร์ทกลัวความผิดที่ก่อขึ้นตัดสินใจจะฆ่าเมียและฆ่าตัวตายตามแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ ตำรวจนำกำลังไปควบคุมตัวไว้ที่โรงพยาบาล ส่วนนายหน่อย แฟนสาว และเพื่อนของแฟนสาวถูกคุมตัวอยู่ สภ.วัฒนานคร ได้ประสานตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ท้องที่เกิดเหตุมารับตัวไปสอบสวนดำเนินคดีต่อไป