รวบแล้วแม่มณี-แฟน อายัดบ้าน-รถหรู อ้างไม่ได้ตั้งใจโกง (คลิป)

รวบแล้วแม่มณี-แฟนหนุ่ม ชุดสืบสวนบุกตะครุบคาห้องนอนหลังกบดานอยู่ในทาวน์เฮาส์ที่สัตหีบ คุมตัวให้รอง ผบ.ตร.สอบปากคำ ก่อนนำตัวขึ้นเครื่องบินกลับไปสอบสวนที่อุดรธานี ท่ามกลาง กองทัพสื่อแห่ทำข่าว รองผู้การสืบภาค 4 เผยอายัดรถหรูแล้ว 4 คัน บ้านอีก 2 หลังที่กรุงเทพฯ ด้านเหยื่อแชร์รู้ข่าวดีใจ หวังได้เงินคืนบ้างถึงจะไม่เต็ม จำนวน ส่วนพนักงานสอบสวนเตรียมคุมตัวชี้ร้านทองปลอมในสำนักงาน ปอศ.เตรียมทำหนังสืออายัดตัวต่อ ส่วนดีเอสไอเรียกประชุมคดี 6 พ.ย. เริ่มเข้า ขั้นตอนยึดทรัพย์ เผยยอดผู้เสียหายลงทะเบียนผ่านคิวอาร์โค้ดดีเอสไอ 3,428คน มูลค่าเสียหายเฉียด 1 พันล้านบาทแล้ว

ภายหลังศาลอนุมัติหมายจับ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือแม่มณี และนายเมธี ชิณภา แฟนหนุ่ม ในฐานความผิด 3 ข้อหาคือ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หลังใช้สารพัดวิธีต้มตุ๋นหลอกเหยื่อร่วมลงทุนออมเงิน ลักษณะแชร์ลูกโซ่ “บ้านออมเงินแม่มณี” เสนอดอกเบี้ยร้อยละ 93 เปอร์เซ็นต์ ต่อมาตำรวจอุดรธานี ค้นตึกสำนักงานและอาคารเช่า ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี พบร้านทองปลอม และห้องนอนหรู สำหรับไลฟ์สดโชว์รวยอยู่ในอาคารด้วย

ขณะที่ดีเอสไอยกทีมหารือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพื่อวางแนวทางการดำเนินคดีหลังรับเป็นคดีพิเศษ มียอดผู้เสียหายกว่า 3,000 คน มูลค่าความเสียหายขณะนี้กว่า 756 ล้านบาท พร้อมให้ตำรวจส่งสำนวนให้ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ส่วนคดีแชร์ฟอเร็ก ทรีดี ดีเอสไอกำลังพิจารณาว่าเข้าหลักเกณฑ์รับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ แต่เชื่อว่าคดีนี้มูลค่าความเสียหายมากกว่าแชร์แม่มณีมาก

รวบแล้วแม่มณีพร้อมแฟนหนุ่ม

ล่าสุดตำรวจจับแม่มณี และแฟนหนุ่มได้แล้ว โดยเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 2 พ.ย. พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4 นำชุดสืบสวนภูธรภาค 4 ตร.สืบสวน ภ.จ.อุดรธานี ตร.ภูธรภาค 2 ตร.ภูธรภาค 5 เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และ บก.สส.บช.น.เข้าตรวจค้นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เลขที่ 35/20 ตลาดเอกธานี กม.10 หมู่ 1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่า น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือแม่มณี หรือเดียร์ อายุ 30 ปี เท้าแชร์ลวงโลก และนายเมธี ชิณภา อายุ 20 ปี แฟนหนุ่ม 2 ผู้ต้องหาหลบมาซ่อนตัว

ตกใจถูกบุกจับคาที่นอน

สำหรับทาวน์เฮาส์ดังกล่าว ชั้นล่างเปิดเป็นร้านตัดผม ชื่อป้าบาร์เบอร์ เจ้าหน้าที่ได้ให้เจ้าของร้านขึ้นไปเคาะประตูเรียก 2 ผู้ต้องหาที่นอนพักอยู่บนห้องนอนชั้น 2 ก่อนที่ น.ส.วันทนีย์ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีเทา กางเกงขาสั้นสีดำ จะออกมาเปิดประตู เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับหน้าถอดสี เอามือซ้ายตบหน้าอกด้วยความตกใจ ขณะที่นายเมธีแฟนหนุ่มที่นอนหลับอยู่กับที่นอนบนพื้น สะดุ้งตื่นลุกใส่กางเกง หลังรู้ว่าตำรวจบุกมาจับคาที่นอน

แจ้งข้อหาตามหมายจับ

ชุดสืบสวนได้แสดงหมายจับกับผู้ต้องหาทั้งคู่ ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานีที่ จ.261/2562 และ จ.262/2562 ลงวันที่ 29 ต.ค.62 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

อารมณ์ดี ไม่มีทีท่าสลด

จากนั้นชุดจับกุมได้คุมตัวทั้งคู่ขึ้นรถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปขึ้นเครื่องบินที่กองบินตำรวจ (บน.6) แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง เพื่อเดินทางกลับ จ.อุดรธานี ดำเนินคดีตามหมายจับศาลต่อไป มีรายงานว่า ขณะจับกุมไม่มีการขัดขืนใดๆทั้งสิ้น โดยเฉพาะแม่มณียังยิ้มและดูเหมือนจะอารมณ์ดี โดยเบื้องต้นถูกจับกุม เหมือนจะตกใจเล็กน้อยแต่สามารถคุมสติได้อย่างรวดเร็ว พร้อมบอกว่ามากบดานได้ 2 วันแล้ว

รอง ผบ.ตร.สอบเองยังปากแข็ง

มีรายงานว่า ก่อนนำตัว น.ส.วันทนีย์ และแฟนหนุ่ม มาที่กองบินตำรวจ ชุดสืบสวนได้นำทั้งคู่ ไปที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) ใกล้ สน.ดอนเมือง เพื่อให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. สอบปากคำ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ จากการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.วันทนีย์ ยืนยันว่าไม่มีเจตนาก่อเหตุ พร้อมระบุว่า เตรียมเอาทนายมาแล้วจะไลฟ์สดชี้แจง

กองทัพสื่อแห่เฝ้า บน.6

ส่วนที่กองบินตำรวจ (บน.6) หลังข่าวจับกุมแม่มณีออนไลน์กับแฟนหนุ่มแพร่สะพัด ผู้สื่อข่าวทุกสำนักมาดักเฝ้ารอถ่ายรูปทำข่าวกันจำนวนมาก คาดว่าเจ้าหน้าที่จะนำตัวทั้งคู่มาขึ้นเครื่องบินกลับ จ.อุดรธานี ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน แต่ทหารอากาศเข้มงวดอย่างมาก ไม่ให้เข้าไปภายในบริเวณกองบินตำรวจ อ้างว่ายังไม่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังมีขบวนของผู้นำอาเซียนลงเครื่อง และใช้เส้นทางผ่านกองบินตำรวจหลายขบวน โดยทิ้งช่วงเป็นระยะ ทหารอากาศได้ให้กองทัพนักข่าว หลบหลังอาคารฝั่งตรงข้ามกองบินตำรวจเป็นระยะเช่นกัน ตั้งแต่ช่วงเวลา 12.00-14.30 น.

คุมเข้มขึ้นเครื่องกลับอุดรฯ

กระทั่งเวลา 14.40 น. พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.บช.ภ.4 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ ศปอส.ตร. ร่วมกันควบคุมตัว น.ส.วันทนีย์และนายเมธี มาถึงกองบินตำรวจโดยมีรถยนต์ตำรวจนครบาลนำ มีรถร่วมในขบวน 6 คัน ผู้ต้องหาทั้ง 2 นั่งมา ในรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ญย 3046 กรุงเทพมหานคร มีพ่อแม่ของ น.ส.วันทนีย์ นั่งร่วมมาด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหาและพ่อแม่ของ น.ส.วันทนีย์ขึ้นเครื่องบินคาซ่าเดินทางไปที่ จ.อุดรธานี

อายัดรถหรู 4 คัน บ้านอีก 2 หลัง

ก่อนเดินทางขึ้นเครื่อง พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.บช.ภ.4 กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้หลบหนีไปที่ จ.ชลบุรี ประมาณ 3-4 วัน ขณะจับกุมมีเงินติดตัวเพียง 13,000 บาท ตอนนี้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธทั้งหมด โดยตำรวจได้ขยายผลการสืบสวน พร้อมอายัดรถยนต์หรูได้ 4 คัน ที่ จ.ชลบุรี และบ้านพักอีก 2 หลัง ที่ กทม. จากนี้จะต้องขยายผลต่อ ส่วนพ่อและแม่ของ น.ส.วันทนีย์ยังไม่มีความผิดอะไร เพียงแค่เดินทางไป จ.อุดรธานี เป็นเพื่อนเท่านั้น ส่วนรายละเอียดทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จะแถลงข้อมูลด้วยตนเองต่อไป

เหยื่อแชร์ดีใจแม่มณีถูกจับ

อีกด้านหนึ่ง ที่ห้องประชุมชั้น 4 สภ.เมืองอุดรธานี ผู้เสียหายและลูกแชร์ทยอยเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อส่งมอบเอกสารหลักฐาน อาทิ การแชตคุยเล่นแชร์ การโอนเงิน และให้ปากคำเพิ่มเติมประกอบเพื่อความเรียบร้อยของสำนวนคดีก่อนส่งมอบดีเอสไอรับไปดำเนินการต่อ โดยให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนจริง และมูลค่าความเสียหายจริง เหยื่อสาวรายหนึ่งกล่าวว่า ได้นำเงินส่วนตัว 9.7 แสนบาท ไปลงทุนเล่นแชร์กับแม่มณี กลับสูญเปล่า ดีใจที่แม่มณีถูกจับได้ มีความหวังอยากได้เงินคืนแค่ 20 เปอร์เซ็นต์

รู้ว่าโกง แต่อยากถามทำเพื่ออะไร

ส่วน น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 27 ปี พิธีกรในงานอีเวนต์ต่างๆ เปิดเผยว่า รู้จักกับแม่มณี ตอนทำงานอีเวนต์ด้วยกัน เคยว่าจ้างแม่มณีมาทำงาน จากนั้นไม่นานพบว่าแม่มณีหรู อู้ฟู่ เมื่อเข้าไปดูในเฟซบุ๊ก พบว่ามีการชักชวนเล่นแชร์จึงเข้าร่วมลงทุนเมื่อปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ลงทุนครั้งแรก 5 หมื่นบาท ได้กำไรมานำไปลงทุนต่อ ภายใน 5 เดือน มียอดพุ่งสูงถึง 1.4 ล้านบาท กระทั่งถูกแม่มณีเบี้ยวเงิน ดีใจที่ทราบข่าวว่าแม่มณีถูกตำรวจจับได้ แม้ว่าจะได้เงินคืนน้อย หรือไม่ได้เงินคืนเลยก็ตาม ถ้าพบแม่มณีอยากจะถามว่า ทำไปเพื่ออะไร แม้จะรู้คำตอบอยู่แล้วว่าตั้งใจมาโกง

ตร.จ่อพาชี้ร้านทองปลอม

ด้าน พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียหายทั้งหมด 220 คน เสียหาย 115 ล้านบาท ที่แจ้งความไว้ นำเอกสารหลักฐานและให้ปากคำเพิ่มเติม โดยระดมพนักงานสอบสวน 20 นาย เพื่อรวบรวมสำนวนส่งดีเอสไอให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พ.ย. หากชุดจับกุมควบคุมตัวผู้ต้องหามาถึง สภ.เมืองอุดรธานี จะได้สอบปากคำ ถึงจะสารภาพหรือปฏิเสธจะนำตัวไปชี้จุดสำนักงาน และร้านทองปลอมในวันรุ่งขึ้น

บิ๊กตำรวจภาค 4 สอบปากคำเอง

ต่อมาเวลา 17.30 น. ชุดจับกุมคุมตัว น.ส.วันทนีย์ และนายเมธี มาถึงสนามบินกองบิน 23 อุดรธานี ก่อนถูกนำขึ้นรถเดินทางต่อไปที่ กก.สส.ภ.จ.อุดรธานี โดยมีนางธวัลรัตน์ ทิพย์ประเวช แม่ของ น.ส.วันทนีย์ และลูกสาววัย 2 ขวบ ร่วมเดินทางไปด้วย ต่อจากนั้น พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 และ พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 ร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนสอบปากคำนาน 1 ชั่วโมง ก่อนนำผู้ต้องหาทั้งสองเข้าห้องขัง สภ.เมืองอุดรธานี โดยแยกห้องชายหญิงตามปกติ ขณะที่บรรดาผู้เสียหายที่มาให้ปากคำ รวมทั้งปักหลักรอพบหน้าผู้ต้องหาตั้งแต่เช้า เดินทางกลับไปหมดแล้ว

ช็อตเพราะซื้อทรัพย์สินค่า 60 ล.

จากนั้น พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 เปิดแถลงข่าวว่า แม่มณีเป็นคนพูดเก่ง ให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้โกง ตั้งใจระดมเงินมาลงทุนเท่านั้น โดยนำเงินลูกแชร์คนที่ 3 ที่ 4 มาจ่ายให้ลูกแชร์ คนที่ 1 มันเลยกลายเป็น “งูกินหาง” สาเหตุที่เงินสะดุดเพราะนำเงินบางส่วนจำนวน 60 ล้านบาทไปซื้อทรัพย์สิน และผู้ต้องหาไม่ยินยอมไปชี้จุดเกี่ยวข้องตามสถานที่ต่างๆ ยืนยันว่าทำกับสามี ไม่มี “แบ็ก” อยู่เบื้องหลัง แต่ตำรวจต้องสืบสวนในเชิงลึก วันนี้ 3 พ.ย. สอบปากคำแม่มณีแล้วนำตัวไปเปิดเซฟที่ยังเปิดไม่ได้ จะนำไปฝากขังวันจันทร์ โดยจะคัดค้านการประกันตัว

ยึดรถ–ตึก 3 คูหา มูลค่า 30 ล.

สำหรับทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่ตำรวจยึดมาได้แล้ว ประกอบด้วย รถเบนซ์เอสแอลเค สีเหลือง ทะเบียน ฐย 4410 กรุงเทพมหานคร ราคา 2.9 ล้านบาท รถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว 320 ดี ทะเบียน ป้ายแดง ท-9209 กรุงเทพมหานคร ราคา 3.2 ล้านบาท และรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู แซดโฟร์ (Z4) สีดำ ทะเบียน 6 กภ 5678 กรุงเทพมหานคร ราคา 3.2 ล้านบาท รวม 3 คัน จอดซุกซ่อนไว้ในตลาดอำเภอบ้านบึง จ.ชลบุรี และรถไฟฟ้าเชอรี่ สีเขียว ราคา 1 แสนบาท ยึดได้พร้อมกับอาคารพาณิชย์ 3 คูหา ที่ จ.อุดรธานี รวมมูลค่า 22.1 ล้านบาท อายัดบัญชีเงินฝากธนาคาร 2 เล่ม ยอดเงิน 8 ล้านบาท รวมแล้วประมาณ 30 ล้านบาท

ปอศ.ทำหนังสือขออายัดตัว

ขณะที่ พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือแม่มณี และนายเมธี ชิณภา 2 ผู้ต้องหาได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. จะทำหนังสือเรียนผู้บังคับบัญชา และส่งไปยัง สภ. เมืองอุดรธานี เพื่ออายัดตัวตามหมายจับ 3 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” ส่วนการสอบปากคำผู้เสียหาย พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ได้สอบปากคำตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ถึงขณะนี้รวมแล้วประมาณ 150 คน จากนี้จะรวบรวมสำนวนคดีทั้งหมดและส่งมอบให้กับดีเอสไอ ในวันที่ 15 พ.ย.เพื่อดำเนินการต่อไป

ดีเอสไอเรียกประชุมคดี 6 พ.ย.

ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อเวลา 13.30 น. วันเดียวกัน นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงกรณีตำรวจจับกุม น.ส.วันทนีย์ และนายเมธีได้แล้วว่า ทั้ง 2 รายถูกจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ต้องควบคุมตัวไปยัง จ.อุดรธานี เพื่อสอบปากคำเกี่ยวกับข้อมูลการหลอกลวงเอาเงินผู้เสียหาย ส่วนกระบวนการของดีเอสไอ จะประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 150/2562 ในวันที่ 6 พ.ย.นี้ จากนั้นเตรียมเรียกผู้เสียหายคดีแชร์แม่มณีทั่วประเทศกว่า 4,000 ราย มาสอบปากคำ ณ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ดีเอสไอ ทั่วประเทศ และส่วนกลางใช้เวลาประมาณ 10 วัน

ยอดเสียหายเฉียด 1 พัน ลบ.

ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ดีเอสไอกล่าวต่อว่า จากนั้นจะนำข้อมูลไปตรวจสอบการโอนเงินของผู้เสียหายเข้าบัญชีบุคคลใดบ้าง พร้อมประสาน ปปง. ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ขบวนการดังกล่าว เมื่อดีเอสไอรวบรวมพยานหลักฐานแล้วจะออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้อง พร้อมดำเนินแนวทางการสืบสวนควบคู่กัน ขณะนี้มียอดผู้เสียหายลงทะเบียนผ่านคิวอาร์โค้ดของดีเอสไอแล้ว 3,428 คน มูลค่าความเสียหาย 984,865,471.45 บาท จากนั้น หลังวันที่ 15 พ.ย. จะโอนสำนวนให้ดีเอสไอ เนื่องจากมีมติรับเป็นคดีพิเศษไปแล้ว