น้ำท่วมสระแก้ว เตือนคลองพระสะทึงจะล้นตลิ่ง อำเภอเมืองให้ขนของขึ้นที่สูง

อัปเดตน้ำท่วมสระแก้ว ชลประทานสระแก้ว เตือนคลองพระสะทึงน้ำล้นตลิ่ง 8 โมงเช้าวันนี้ โดยประชาชนใน อ.เมือง ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ด้าน ผู้ว่าฯ ไปวัฒนานครเยี่ยมชาวบ้าน รับมวลน้ำมากระบายไม่ทัน

นายณัฐวุฒิ สร้อยประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระแก้ว ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ลงวันที่ 24 ก.ย.62 ระบุว่า ด้วยวันที่ 22 ก.ย.62 ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอวังสมบูรณ์ อำเภอวังน้ำเย็น และอำเภอเขาฉกรรจ์ ทำให้มีน้ำไหลลงคลองพระสะทึงเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มของระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยการตรวจสอบจากสถานีตรวจวัดที่ Kgt.10 ในเมืองสระแก้ว ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 3-4 เซนติเมตร/ชั่วโมง ระดับน้ำในคลองต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.67 เมตร คาดว่าระดับน้ำจะล้นตลิ่งประมาณเวลา 08.00 น. ของเช้าวันนี้ (25 ก.ย.62) นั้น

โครงการชลประทานสระแก้ว จึงเห็นควรแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่อำเภอเมือง ให้เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและรับฟังประกาศจากหน่วยงานราชการ เพื่อทราบและเตรียมพร้อมในการดำเนินการต่อไป

ก่อนหน้านี้ นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยอมรับว่า สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ส่งผลกระทบพี่น้องประชาชนชาวสระแก้วมาตั้งแต่ช่วงกลางอาทิตย์ที่แล้ว ล่าสุดทางจังหวัดเอง ได้นำสิ่งของข้าวสารอาหารแห้ง แจกให้ผู้ประสบภัยที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ รวมทั้งสิ้นเกือบ 400 ชุด / จากการลงพื้นที่จริง พบว่าในตำบลโนนหมากเค็ง ของอำเภอวัฒนานคร ประสบปัญหามวลน้ำจำนวนมากระบายไม่ทัน เพราะไม่มีการขุดลอกคูคลองไว้เตรียมพร้อม

ล่าสุด ได้กำชับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนหมากเค็งไปแล้ว ให้เร่งจัดสรรงบประมาณขุดลอกคูคลองหลังน้ำลด สวนพื้นที่ตำบลหันทราย ในอำเภออรัญประเทศ พบปัญหาว่า มีอยู่ 4 หมู่บ้านที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี จากการพูดคุยพร้อมนำแผนที่ทางภูมิศาสตร์ออกมาดู สภาพพื้นที่มีแนวถนนเป็นพนังกั้นน้ำ ประกอบกับแนวลำคลองธรรมชาติค่อนข้างแคบ จึงได้เสนอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลองเสนอแผนการขุดคูคลองขึ้นมาใหม่ เพื่อเบี่ยงทางน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน เหมือนกับการขุดคลองขึ้นมาใหม่ เพื่อเปลี่ยนเส้นทางน้ำของจังหวัดจันทบุรี

ส่วนพื้นที่ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง ภาพรวมน้ำยังคงลดระดับจนเกือบกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังถนน ทั้งสายหลักและสายรองอยู่เล็กน้อย จึงได้เรียกหน่วยงานแขวงการทางในพื้นที่ สอบถามความเป็นไปได้ในการฝังท่อระบายน้ำลอดใต้ถนนเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้มีน้ำท่วมขัง ซึ่งก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน / แต่ที่น่าเป็นห่วง ก็คือ สะพานโอปะเจือนบนถนนศรีเพ็ญ ในอำเภอโคกสูง พบว่า ตอม่อได้ทรุดตัวจนทำให้สะพานเอียงมากกว่าปกติ เมื่อสอบถาม ตชด.ในพื้นที่ พบว่า มวลน้ำจำนวนมากจากฝั่งไทย ไหลระบายลอดใต้สะพานตรงจุดนี้ได้เพียงจุดเดียว พอน้ำข้ามไปยังฝั่งกัมพูชาได้แล้ว น้ำจะไปชนกับถนนสาย เค 5 ของฝั่งกัมพูชา ที่เป็นเหมือนพนังกั้นน้ำอีกจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำในอำเภอโคกสูงของฝั่งไทย ค่อนข้างระบายได้ช้า

ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ลงวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า พื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งสิ้น 132 หมู่บ้าน 25 ตำบล ใน 5 อำเภอ คือ อำเภอเมืองสระแก้ว / อำเภอเขาฉกรรจ์ / อำเภอวัฒนานคร / อำเภออรัญประเทศ และอำเภอโคกสูง มีผู้ประสบภัยมากกว่า 1,239 ครัวเรือน ความเสียหายคอสะพานชำรุด 1 แห่ง วัดเสียหาย 2 แห่ง ส่วนภาพรวมพื้นที่การเกษตร ยังคงเร่งสำรวจอยู่ในขณะนี้