ทร.ไทย - ทร.อินโดนีเซีย จับมือฝึกผสม 2 ประเทศ ภายใต้รหัส SEA GARUDA 2019 โดยนำทหารเข้าร่วมฝึกเรือรบ อากาศยานและกำลังนาวิกโยธิน ถือเป็นการป้องกันภัย 3 มิติ ผิวน้ำ สงครามใต้น้ำ และการป้องกันภัยทางอากาศ ระหว่าง 15 - 20 ส.ค.ที่บริเวณอ่าวไทย...

วันที่ 15 ส.ค.62 พล.ร.ต.กำจร เจริญเกียรติ ผู้บัญชาการกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกผสม แบบทวิภาคี SEA GARUDA 2019 ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ระหว่างกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรืออินโดนีเซีย โดยมี น.อ.กสมาน ขันธพงษ์ เสนาธิการกองเรือฟริเกตที่ 1 ในฐานะผู้บังคับหมู่เรือฝึกฯ พร้อมด้วยคณะนายทหาร กำลังพลที่เข้าร่วมการฝึก จากกองทัพเรือไทยและอินโดนีเซีย ร่วมในพิธีเปิดการฝึก

พล.ร.ต.กำจร กล่าวว่า SEA GARUDA (ซีการูด้า) 2019 เป็นการฝึกปฏิบัติการร่วมกันทั้ง 3 มิติ ระหว่างเรือรบ อากาศยาน และกำลังนาวิกโยธิน ในด้านสาขาสงคราม ผิวน้ำ สงครามใต้น้ำ และการป้องกันภัยทางอากาศ การตรวจค้นและการปฏิบัติการร่วมต่างๆ ในการแลกเปลี่ยนทัศนคติ ความรู้ ประสบการณ์ ในการปฏิบัติการร่วมกันและสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างกองทัพเรือทั้งสองประเทศ การฝึกในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 20 โดยจะมีการฝึกปีเว้นปี และสลับกันเป็นเจ้าภาพ

...

ในปีนี้กองทัพเรือไทยเป็นเจ้าภาพการฝึก ในระหว่างวันที่ 15-21 ส.ค.62 ณ บริเวณพื้นที่อ่าวไทยตอนบน และ อ.สัตหีบ โดยมีผู้บัญชาการกองเรือฟริเกตที่ 1 เป็นผู้อำนวยการฝึก และเสนาธิการกองเรือฟริเกตที่ 1 เป็นผู้บังคับหมู่เรือฝึกฯ และมีผู้แทนจากกองทัพเรืออินโดนีเซีย เป็นรองผู้บังคับหมู่เรือฝึกฯ 

สำหรับกำลังกองทัพเรือไทย ประกอบด้วย เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงรัตนโกสินทร์ เครื่องบินลาดตระเวนดอร์เนีย เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง S76 B เฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ผิวน้ำ ซุปเปอร์ลิงค์ และ 1 ชุดปฏิบัติการนาวิกโยธิน 30 นาย กำลังของกองทัพเรืออินโดนีเซีย ประกอบด้วยเรือฟริเกต KRI RUNG TOMO เรือคอร์เวต KRI FRANS KAISIEPO รวม 2 ลำ และ 1 ชุดปฏิบัติการนาวิกโยธิน 12 นาย สำหรับประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกในครั้งนี้

จะทำให้กำลังพลของกองทัพเรือมีความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างเรือรบของกองทัพเรือไทยกับเรือรบจากต่างประเทศ และเรือรบกับอากาศยาน ในการปฏิบัติการทั้ง 3 มิติ สาขาสงคราม ผิวน้ำ สงครามใต้น้ำ และการป้องกันภัยทางอากาศ การปฏิบัติการตรวจค้นเรือต้องสงสัย ซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะได้ร่วมฝึกกับเรือรบทั้ง 2 ลำ ของกองทัพเรืออินโดนีเซีย รวมทั้งยังได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ของชุดปฏิบัติการนาวิกโยธินกองทัพเรือทั้งสองประเทศ ถือเป็นประโยชน์ต่อกองทัพเรือเป็นอย่างมาก นอกจากนี้แล้วยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย.

...