ทัพเรือภาค 1 พบเรือประมงอั่งเปานำโชค 91 ถูกเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่พุ่งชน จนลูกเรือบาดเจ็บจำนวนมาก จึงได้ส่งอากาศยาน พร้อมประสานเรือตำรวจน้ำไล่ล่าเรือน้ำมันที่ชน ที่เกิดหวิดอับปางกลางทะเล แต่สามารถช่วยได้ทันแล้วลากจูงนำส่งยังท่าเรือบางสะพานได้อย่างทุลักทุเลได้ปลอดภัย
เมื่อวันที่ 10 ก.ค.62 พล.ร.ท.บรรจบ โพธิ์แดง ผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 1/ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เผยว่า ได้รับแจ้งจากนายเดช ภัคสิริจินดา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 ซ.บางจะเกร็ง ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เจ้าของเรือประมง น.ชัยยพล 44 ว่าเรือประมง อั่งเปานำโชค 91 (เรือประมงปั่นไฟ) ขนาด 14 ตัน ความยาว 6 วา 2 ศอก ได้ถูกเรือบรรทุกน้ำมัน สีดำ ขนาดใหญ่ชนที่บริเวณ แลต 11 องศา 19 ลิปดา เหนือ ลอง 99 องศา 41 ลิปดา ตะวันออก ระยะห่าง 14 ไมล์ จากท่าเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และได้หลบหนีไป

จึงได้สั่งการให้หมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 1 นำ เฮลิคอปเตอร์ ออกลาดตระเวนชี้เป้าและบันทึกภาพ รวมทั้งประสานชมรมวิทยุมดดำนาวี และเรือในพื้นที่ใกล้เคียงช่วยเหลือ ในการติดตามเรือลำดังกล่าว จนกระทั่งพบเรือบรรทุกน้ำมันชื่อ THANATTARA สีดำ ขณะมุ่งหน้าหลบหนีไปทางเหนือ ด้วยความเร็ว 20 นอต ได้ที่บริเวณพิกัด 12 องศา 9 ลิปดา เหนือ 100 องศา 05 ลิปดา ตะวันออก มีร่องรอยการชนบริเวณหัวเรือซ้าย (ด้านล่าง) จึงได้ประสานข้อมูลกับ ส.รน.6 กก.4 บก.รน. นำเรือตำรวจน้ำ 625 จากบางสะพาน เข้าควบคุมเรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าว พร้อมนำความเข้าแจ้งร้องทุกข์ที่ สภ.บางสะพาน เพื่อประสานไปยังเจ้าของเรือบรรทุกน้ำมัน ในการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป
...

นายเดช ภัคสิริจินดา กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในขณะเรืออั่งเปานำโชค 91 จอดทอดสมออยู่มีลูกเรือ 2 คนนอนหลับภายในเรือและเรือบรรทุกน้ำมันได้พุ่งเข้าชนทางด้านแถบขวาของเรือไปทั้งแถบ จนลูกเรือกระเด็นไปคนละทิศละทางได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก และโชคดีที่ไม่ตกจากเรือ มีเรือประมงในบริเวณใกล้เคียงเห็นเหตุการณ์ ได้ช่วยประคับประคองไม่ให้เรือจม ก่อนลากจูงนำส่งยังท่าเรือบางสะพานได้อย่างทุลักทุเล ส่วนเครื่องยนต์เรือ และตัวเรือเสียหายอย่างมาก ค่าเสียหายไม่น่าต่ำกว่า 1 ล้านบาท ยังนับว่าโชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

"ต้องขอขอบคุณกองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 1 รวมถึงตำรวจน้ำ และหน่วยต่างๆ ใน ศรชล.ภาค 1 เป็นอย่างมาก ที่ให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีหลังจากได้รับแจ้ง ด้วยความพร้อมของกองทัพเรือที่แสดงให้เห็นว่า "ที่ใดมีภัยที่นั่นมีทหารเรือ" และเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ".