ตีสามของวันที่ 17 มิ.ย. นับเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญของชาวชลบุรีโดยแท้ “สมชาย คุณปลื้ม” หรือ กำนันเป๊าะ ชื่อของลูกผู้ชายใจใหญ่ที่ไม่ว่าจะเป็นคนแก่ยุคใด เด็กน้อยรุ่นไหนเป็นอันต้องรู้จัก แม้จะไม่เคยประสบพบหน้า...

ชื่อของ “สมชาย คุณปลื้ม” หรือกำนันเป๊าะ คงยากที่จะให้คำจำกัดความเชิงตัวบุคคลได้ เพราะมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย ว่ากันว่า กำนันเป๊าะเป็นคนที่คุยสนุก หากคุยกันถูกคอแล้วจะมีเรื่องเล่าให้ฟังได้ทั้งวัน โดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาบางแสน รวมทั้งความกว้างขวางของกำนันเป๊าะ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของคนเมืองชล

...

ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ย้อนเรื่องเล่าจากปากชาวบ้านในคืนวันที่กำนันเป๊าะโด่งดัง ครองหัวใจคนชลบุรีไว้ได้ทั้งจังหวัด...

ในปี 2538 หนังสือพิมพ์หลายฉบับ เล่นข่าว “กำนันเป๊าะ” เจ้าพ่อภาคตะวันออกถูกชะตาชีวิตโหมกระหน่ำพัดพาให้ตกเป็นข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ

ณ เวลานั้น เรื่องราวของกำนันเป๊าะแทบทุกด้านถูกตีแผ่ให้คนทั่วประเทศได้รับรู้ รวมถึงเรื่องราวนอกประเด็นในมุมส่วนตัวก็ถูกกางออกมานำเสนอแทบทั้งสิ้น

ทว่า ใครบ้างจะรู้ว่า คนอย่างกำนันเป๊าะที่มีเงินเป็นถุงเป็นถัง ชนิดที่ว่าจำไม่ได้ว่า มีเงินฝากอยู่ในธนาคารเท่าไร และฝากอยู่ที่ไหนบ้าง เพราะทรัพย์ศฤงคาร ข้าทาสบริวารกำนันเป๊าะคนนี้มีมากมายล้นเหลือ ยิ่งบุญบารมีนี่ไม่ต้องห่วง ชาวบ้านร้านตลาดต่างชื่นชมในความใจใหญ่ของเจ้าพ่อคนนี้ยิ่งนัก

ปลายปี 2538 หนังสือพิมพ์หลายฉบับที่มีปลายปากกามาจากนักข่าวท้องถิ่นในชลบุรี ตีแผ่เรื่องราวอีกด้านของเจ้าพ่อน้ำเค็มคนนี้เอาไว้ว่า กำนันเป๊าะเป็นคนที่เรียบง่ายในการแต่งตัว อะไรก็ได้ที่ใส่สบาย เพียงเสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ตแขนสั้นกับกางเกงยีนส์ธรรมดาที่ไม่ต้องมียี่ห้อก็พอแล้ว

ขนาดต้องโกหกว่า เสื้อยืดที่ใส่อยู่ราคาเกือบพันบาท เพราะกลัวคำครหานินทาว่าเป็นเจ้าพ่อกระจอก แต่ถ้าวันไหนเห็นกำนันเป๊าะใส่ LEVI’S 501 ไม่ต้องแปลกใจ เพราะมีคนซื้อมาให้

...

ผิดกับเครื่องประดับ กำนันเป๊าะชอบสะสมแหวนเพชร สร้อยคอทองคำ 4 เส้นที่จะต้องห้อยติดคอเป็นประจำ ส่วนนาฬิกาที่สะสมมากที่สุด คือ โรเล็กซ์ และปาเต็ก ฟิลลิป

สำหรับรถยนต์ท่ีชอบสะสมมากที่สุด คือ รถเบนซ์ เขาเคยมีมากกว่า 10 คัน หมุนเวียนไว้ใช้เวลาออกงานกับขับเล่นในเมือง โดยกำนันเป๊าะให้เหตุผลสั้นๆ ว่า เชื่อมั่นในคุณภาพ แต่ที่สะสมไว้เยอะมากคือพระเครื่อง มีมากถึงขยายห้องพระไว้มากกว่า 2 ห้อง

ขณะที่ เรื่องการกินก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย ข้าวแกงคืออาหารหลัก แต่แม้จะเป็นเพียงข้าวแกง แต่กำนันเป๊าะต้องเสียค่าข้าวแกงกับโอเลี้ยงบางมื้อในตลาดหนองมนถึง 370,000 บาท

...

เพราะระหว่างนั่งกินอยู่มีทั้งคนมาขอเงินและมายืมเงิน ซึ่งกำนันเป๊าะเป็นคนใจนักเลงเคยเสียเงินเป็นล้าน เพราะลูกน้องมายืมแล้วไม่จ่าย แต่กำนันเป๊าะก็ไม่เคยเอ่ยปากทวงหรือต่อว่าเลยสักครั้งเดียว

หากเพราะคุณสมบัติส่วนตัวของเขา คือ อ่อนน้อมถ่อมตน โดยเขามักจะพูดติดปากอยู่เสมอเมื่อครั้งเข้าสู่สนามการเมืองใหม่ๆ ว่า “ผมมันเรียนมาน้อย” ซึ่งความอ่อนน้อมของเจ้าพ่อน้ำเค็มผู้นี้ กลายเป็นเสน่ห์ซ่อนคม และส่อให้เห็นว่า หากเขาจะคิดการใหญ่แล้ว เขามักใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนเสมอ

ดังจะเห็นได้จากลูกๆ และผู้แวดล้อมของเจ้าพ่อผู้นี้ที่เข้าสู่การเมืองระดับชาติ และได้ตำแหน่งใหญ่โตในการบริหารประเทศ...