กรณีหญิงชาวบ้านวัย 52 ปี ออกไปเก็บผักและหายไปสวนป่าระเบาะเกตุ ใกล้ทางเข้า อช.เขาใหญ่ ล่าสุด พบตัวแล้วหลังเจ้าตัว เดินตามเสียงตามสายของหมู่บ้านทุ่งแฝก จ.ปราจีนบุรี ด้านลูกชายดีใจรีบไปรับกลับ...

จากกรณี นางมานัส สุดอารมณ์ อายุ 52 ปี ออกไปเก็บผักในสวนแล้วเกิดพลัดหลงกับนายเสมา สุดอารมณ์ อายุ 56 ปี (สามี) ที่สวนป่าระเบาะเกตุ หมู่ 3 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ทำให้หลงทางเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 25 พ.ค.62 ต่อมาเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กู้ภัยสัจจะพุทธธรรม ชาวบ้าน กว่า 50 นาย กระจายกำลังช่วยกันออกตามหา ทางญาติพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ และทราบว่าอยู่บริเวณโขดหินและจุดที่แต้มสีขาวไว้ ทางเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกตามหาทั้งวันแต่ก็ไร้วี่แวว พบเพียงรอยเท้าแต่ก็ยังไม่พบตัว จนกระทั่งค่ำจึงถอนกำลังและยุติการค้นหา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 พ.ค.62 นายนภดล งามเหลือ นายอำเภอนาดี ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนหาทางติดตามตัวนางมานัส โดยจัดแบ่งกำลังออกเป็น 8 ชุด ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังรวมพลบริเวณฐานป่าไม้สวนป่าระเบาเกตุ โดยมีนายนพดล งามเหลือ นายอำเภอนาดี เป็นหัวหน้าชุด ในการออกค้นหาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำลังจะกระจายกำลังออกติดตาม ก็ได้รับแจ้งจากนายชนุดม สุดอารมณ์ อายุ 31 ปี (ลูกชาย) ว่าได้รับโทรศัพท์ จากนางมานัส (ผู้เป็นแม่) ว่า ตอนนี้แม่ปลอดภัยแล้วอยู่ในหมู่บ้านทุ่งแฝก ซึ่งห่างจากจุดค้นหาประมาณ 3-4 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ จึงได้นำกำลังพร้อมกับญาติเดินทางไปรับตัวนางมานัส เพื่อกลับมาที่ฐานปฏิบัติการ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลนาดี เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกายต่อไป 

...

จากการตรวจสอบร่างกายพบว่า นางมานัส มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยหรืออาการของคนที่หลงป่า อย่างไรก็ตามทางทีมแพทย์ยังต้องรอดูอาการ โดยมีบรรดาญาติ สามี และลูกๆ เฝ้าดูอย่างใกล้ชิดและดีใจที่เห็นนางมานัส กลับออกมาได้อย่างปลอดภัย 

นางมานัส กล่าวว่า หลังจากที่ตัวเองรู้ว่าหลงเข้าไปในป่าจนไม่สามารถหาทางกลับออกมาได้ ตัวเองก็ไม่ได้เดินออกไปไหน ยังคงอยู่บริเวณจุดเดิมที่ได้โทรบอกลูกชายว่า อยู่บริเวณโขดหิน ต้นไม้ใหญ่ เพราะเกรงว่าเจ้าหน้าที่ออกตามหาแล้วจะไม่เจอ ซึ่งตนเองก็ได้ยินเสียงปืนและเสียงกู่ร้องของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านตลอด แต่ไม่มีใครเดินผ่านมาบริเวณจุดที่ตนอยู่ จนกระทั่งค่ำก็ยังไร้วี่แวว ของเจ้าหน้าที่และญาติมาจุดที่ตัวเองอยู่ ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนัก ตนใช้โขดหินเป็นที่หลบฝนและนอน จนรุ่งเช้าได้ยินเสียงตามสาย จึงตัดสินใจเดินมาตามเสียง จนมาพบทางจึงได้เดินตามทางมาพบหมู่บ้านทุ่งแฝก แล้วเข้าไปขอชาร์จแบตโทรศัพท์ เพื่อที่จะโทรหาลูกให้มารับ ครั้งนี้ฝากเตือนอย่าเข้าป่าเลยเพราะมันน่ากลัวมาก โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ถ้าจะไปให้ไปกันหลายๆ คน ช่วงที่อยู่ในป่า ตนเองไม่ได้รับประทานอะไรเลย มีเพียงน้ำประทังชีวิตเท่านั้น 

ส่วนทางญาติ สามีและลูกชาย กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่แม่สามารถออกมาได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ

นายชนุดม (บุตรชาย) กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงเช้าตนกำลังเตรียมตัวออกค้นหาแม่ จากนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่ ว่าตอนนี้ได้เดินออกมาจากป่าแล้ว อยู่ในหมู่บ้านทุ่งแฝก ปลอดภัยดี ตนจึงได้บอกเจ้าหน้าที่ และไปรับแม่กลับมาที่ฐานปฏิบัติการ และทางเจ้าหน้าที่จะได้พาตัวแม่ส่งโรงพยาบาลนาดี ตรวจดูอาการอีกครั้ง.