สุดทน ชาวตลาด "ภิบาลญาติ" อ.แกลง จ.ระยอง ประกาศขายตึก หลังนายทุนดัดแปลงอาคารเป็นที่เลี้ยงนกนางแอ่นกว่า 100 หลัง เดือดร้อนทั้งเสียง กลิ่น ร้องเรียน 10 ปีไร้ผล เด็กเล็กป่วยภูมิแพ้ ร้องกระจองอแงทั้งวัน 

เวลา 10.30 น. วันที่ 3 พ.ค. นายอำนวย ตระกูลศุภชัย นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายไชยวัฒน์ สวัสดี ผอ.กองช่างเทศบาลตำบลเมืองแกลง จ.ระยอง พร้อมด้วย นายชัยรัตน์ วีระปัญญาภรณ์ ปลัดอำเภอแกลง น.ส.สายจิตร์ สุขศรี หน.กลุ่มงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม จ.ระยอง เดินทางมายังบริเวณตลาดภิบาลพัฒนา ต.ทางเกวียน เทศบาลตำบลเมืองแกลง อ.แกลง หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้าที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว ว่าเดือดร้อนจากนายทุนที่เข้ามาต่อเติมอาคารเลี้ยงนกนางแอ่นในอาคารภายในตลาดภิบาลญาติกว่า 100 อาคาร ทั้งเสียงนกที่อัดเทปเปิดตลอด 24 ชั่วโมง กลิ่นเหม็นจากมูลนกนางแอ่น จนบางรายต้องย้ายหนีเพราะป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ 

พบว่า โครงการตลาดภิบาลญาติ มีอาคารพาณิชย์รวมกว่า 300 อาคาร มีเสียงนกนางแอ่นดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ อาคารส่วนใหญ่ไม่มีคนอยู่อาศัย ในจำนวนกว่า 100 อาคาร มีการต่อเติมจากเดิมที่มีความสูง 3 ชั้น ขึ้นไปอีก 3-5 ชั้น มีการเจาะช่องและท่อระบายอากาศโดยปิดทางเข้าออกมิดชิด เพื่อใช้เป็นที่อยู่ของนกนางแอ่น 

...

จากการสอบถาม นายสนิท คุ้มหอม อายุ 56 ปี ได้เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้ที่ปิดป้ายประกาศ "ขายบ้านด่วน 18 ล้าน เพราะไข้หวัดนกระบาดใหญ่ นายอำเภอช่วยซื้อหน่อย และผู้ใหญ่ที่อยู่ในตลาดช่วยซื้อหน่อย ต้องการขาย หนีหวัดนก" สาเหตุที่ต้องประกาศขายเพราะเดือดร้อนจากนายทุนที่เลี้ยงนกในอาคารพาณิชย์รอบๆ บ้านของตนที่เปิดร้านขายไก่สด ปัจจุบันขายแทบไม่ได้เลย เพราะตลาดสดย้ายออกไป และใช้พื้นที่ตลาดเก่าเป็นที่เลี้ยงนก ซึ่งขณะนี้ปรับปรุงเป็นใช้ที่เลี้ยงนกอยู่

"ตึกที่เลี้ยงนกนางแอ่นมีกว่าร้อยอาคาร เดือดร้อนมากกับเสียงนกร้องทั้งวันทั้งคืน กลิ่นเหม็นของมูลนก เคยร้องเรียนไปทุกหน่วยงาน เกี่ยวกับความเดือดร้อน รวมถึงการต่อเติมอาคารที่ไม่ได้มาตรฐาน ร้องมาเป็นสิบปี ก็ไม่เคยมีการตรวจสอบ ปัจจุบันชาวบ้านที่อยู่อาศัย ต่างก็ขายอาคารไปเกือบหมด เพราะอยู่ไม่ได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กอ่อนจะมีอาการภูมิแพ้ นอกจากนี้ยังมีนายทุนต่างชาติเข้ามาซื้ออาคารในราคาที่สูงผ่านนอมินีคนไทย ในราคาเป็นสิบล้านบาทต่อหลัง จึงต้องการให้มีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา เพราะไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว โดยเฉพาะการต่อเติมอาคารสูงจากเดิมหลายชั้น หวั่นจะพังลงมา"

ด้าน น.ส.ณัชฏาภรณ์ วงษ์ศรี อายุ 33 ปี ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันอาศัยอยู่ในอาคารพาณิชย์ ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะตนเองมีลูกอ่อนวัย 3 เดือน ทุกข์ทรมานมาก เนื่องจากเด็กอ่อนจะมีอาการภูมิแพ้จากมูลนกนางแอ่น ป่วยเรื้อรัง และยังมีเสียงนกที่ทางผู้เลี้ยงเปิดเสียงออกลำโพงเพื่อเรียกนกเข้ามาตลอดเวลา จนทำให้ลูกงอแงทั้งวันทั้งคืน ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่มีเงินไปซื้อที่อยู่ใหม่ จึงจำใจต้องทนรับกรรม วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบช่วยเหลือด้วย

นายไชยวัฒน์ สวัสดี ผอ.กองช่าง เทศบาลตำบลทางเกวียน กล่าวว่า การก่อสร้างต่อเติมอาคารยังไม่มีการขออนุญาต ส่วนจะผิดหรือไม่ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนนายอำนวย ตระกูลศุภชัย นักวิชาการป่าไม้ฯ กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้นพบมีการสร้างอาคารเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของนกนางแอ่นจริง ซึ่งกฎหมายระบุไว้ว่า หากมีการกักขังนกโดยไม่ให้เข้าออก ก็ถือว่ามีความผิด เพราะนกนางแอ่นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่หากนกเข้ามาอยู่เองตามธรรมชาติโดยไม่มีการกักขังก็ถือว่าไม่ผิด ซึ่งต้องเข้าไปตรวจสอบด้านในเพื่อดูว่าภายในมีการกักขังหรือไม่ หากพบรังนกและมีการเก็บรังเพื่อประโยชน์ทางการค้าก็ถือว่าผิด แต่ต้องขออนุญาตทางเจ้าของอาคารก่อน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่อยู่

"เท่าที่ตรวจสอบด้านนอกอาคารที่ปรับปรุงต่อเติม มีการเปิดช่องทางเข้าออกให้นกนางแอ่นเข้าออก ก็ไม่เข้าข่ายกักขัง ส่วนการต่อเติมอาคาร ต้องเป็นหน้าที่ของเทศบาลตำบลเมืองแกลง รวมถึงเรื่องของสุขอนามัยด้วย เบื้องต้นเตรียมหารือเพื่อหาข้อยุติและจะเข้าไปตรวจสอบภายในอาคารทั้งหมด"

ขณะที่ น.ส.สมจิตร์ สุขศรี หน.กลุ่มงานอนามัยและสิ่งแวดล้อมอาชีวอนามัย สาธารณสุขจังหวัดระยอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังตรวจสอบเปิดเผยว่า มีมูลนกตกมาที่พื้นจำนวนมาก รวมถึงเสียงนกที่ดัง ซึ่งจะนำเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากนกนางแอ่นที่อยู่ภายในอาคาร ก่อนสรุปว่ามีผลกระทบอะไรบ้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอแกลงเพื่อลงบันทึกไว้ และเตรียมประสานเจ้าของอาคารทั้งหมด เพื่อเข้าตรวจสอบร่วมกันอีกครั้ง.