ผู้สมัคร ส.ส. 4 พรรค เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์-อนาคตใหม่-ภูมิใจไทย สามัคคี กล่าวหา "พลังประชารัฐ" ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่ชลบุรี ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ แฉหีบบัตรจาก อ.บ่อทอง มาบ้านบึง ใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 เม.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรี ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ชลบุรี พรรคเพื่อไทย นายพายุ เนื่องจำนงค์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ นายสมชาย เนื่องจำนงค์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พรรคอนาคตใหม่ และนายภิญโญ ตั๊นวิเศษ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมาพบคณะกรรมการฝ่ายสืบสวนและไต่สวนประจำ จ.ชลบุรี เนื่องจากได้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ
นายกรกฎ เชาว์เจริญชล รองผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรีให้การต้อนรับ และชี้แจงว่า ในการร้องเรียนของการเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี มีทั้งหมด 9 เรื่อง ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาแล้วมีมูล 1 เรื่อง ซึ่งจะได้ทำการสอบสวนและไต่สวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนผู้สมัคร ส.ส. 4 คนที่เดินทางมาให้ปากคำเกี่ยวกับการร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น ผู้ทำการไต่สวนคำร้องจะได้รับการแต่งตั้งจาก กกต.กลางขึ้นมาพิจารณา โดยจะใช้เวลาตามที่กฎหมายกำหนด โดยหลังจากรับคำร้องแล้วจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 20 วัน หากมีเหตุจำเป็นสอบสวนไต่สวนไม่เสร็จสามารถขยายเวลาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 15 วัน ซึ่งการดำเนินการของ กกต.มีกรอบของกฎหมายไว้แล้ว จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย
นายพายุ เนื่องจำนงค์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การร้องเรียนในครั้งนี้มีหลายประเด็น ประเด็นสำคัญคือในวันเลือกตั้งได้มีชายเสื้อกล้ามได้เข้าไปนั่งในหน่วยเลือกตั้งและชี้นำให้ลงคะแนนให้เบอร์ 1 พรรคพลังประชารัฐ ในหน่วยเลือกตั้งหมู่ 1 ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โดยมีนายคมกฤช สิงห์โตทอง อดีตนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.ชลบุรี เป็นผู้จับผิดได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการขนหีบบัตรล่าช้าจาก อ.บ่อทอง มา อ.บ้านบึง เพื่อจัดเก็บระยะทาง 30 กิโลเมตรใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง จึงขอให้นับคะแนนใหม่ รวมทั้งการติดป้ายหาเสียงเกินจำนวนที่ กกต.กำหนด การนำโปสเตอร์ เอ 3 ไปติดตามบ้านเรือนและวัดต่างๆ ซึ่งได้มีการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอไว้ทั้งหมด และส่งเอกสารร้องเรียนไปหมดแล้ว
...
"นอกจากนี้ นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ หรือ อดีต ส.ส.ต้น ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 1 ได้นำภาพถ่ายของนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไปลงในแผ่นพับในการหาเสียงโดยไม่ขออนุญาต นำไปแจกจ่ายในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 4 อ.บ้านบึง อ.บ่อทอง และ อ.หนองใหญ่ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่านายบุญยอดได้ให้การสนับสนุนนายสรวุฒิ ส่งผลกระทบต่อฐานคะแนนเสียง จึงได้เดินทางมาให้ปากคำในครั้งนี้"
ด้าน นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในส่วนของตนนั้นได้ทำการตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับจ้างพิมพ์เอกสารหาเสียง พบว่าหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่เขต 4 ชลบุรี จะมีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 191 หน่วย จะทำป้ายติดหาเสียงได้ 382 แผ่น แต่ผู้สมัครเบอร์ 1 ได้จ้างบริษัทแห่งหนึ่ง จำนวน 382 แผ่น และไปจ้างอีกบริษัทหนึ่งอีก 400 แผ่น นำไปติดตั้งในพื้นที่ 4 ชลบุรี ซึ่งเป็นความผิดกฎหมายเลือกตั้งแน่นอน
ขณะที่ นายภิญโญ ตั๊นวิเศษ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนพบว่ามีการนำโปสเตอร์ เอ 4 ที่ติดตามป้ายสถานที่ราชการ หรือพื้นที่ที่ กกต.กำหนดไว้ ปรากฏว่าพบป้าย เอ 3 ของหมายเลข 1 ไปติดตามบ้านเรือนและวัดต่างๆ ในพื้นที่ อ.บ้านบึง 4 ตำบล คือ ต.บ่อทอง ต.พวงทอง ต.เกษตรสุวรรณ และ ต.วัดสุวรรณ นอกจากนี้ยังพบว่าจะมีผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่เขต 4 ชลบุรี จะเข้าชื่อร่วมร้องเรียนในครั้งนี้ด้วย
ส่วน นายสมชาย เนื่องจำนงค์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ตนในฐานะผู้เสียหาย ได้เข้าชื่อร่วมร้องเรียนในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการเลือกตั้ง เพราะเย้ยกฎหมาย และการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ทางด้าน นายคมกฤช สิงห์โตทอง อดีตนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.ชลบุรีกล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ยอมรับว่ามีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจำนวนมาก ดีใจที่จับผิดผู้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ แต่ก็ยังกังขาคำให้การของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้ง ที่ครั้งแรกยืนยันว่าทำผิด แต่ต่อมากลับคำให้การว่าไม่ผิด ทั้งที่มีการอัดวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน ที่สำคัญที่เป็นประเด็นค้างคาใจคือ การขนหีบบัตรจาก อ.บ่อทอง มา อ.บ้านบึง ระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง ซึ่งตนได้จับเวลาไว้ และจะเป็นประเด็นในการนับคะแนนใหม่ หรือให้มีการเลือกตั้งใหม่