ช้างเพศผู้วัย3ปี  ออกจากป่าแก่งหางแมวจนทบุรีมาหากิน ถูกพบเป็นศพถูกลิงล้มข้างสวนยาง สัตวแพทย์ผ่าซาก เจอหัวตะกั่วในตัว 2 จุด เผยเคยติดบ่วงที่มีคนวางดักจนได้รับบาดเจ็บ ยังวนเวียนหากินไม่ไปไหน ครั้งนี้เลยถูกยิงตาย  

บ่ายวันที่ 29พ.ย.ร.ต.อ.วัลลภ ผลพูน รอง.สว(สอบสวน)สภ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี รับแจ้งจากนายสุเทพ สุริยะ หน.หน่วยพิทักษ์ป่าคลองครก เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ว่ามีช้างป่าล้มตายสงสัยถูกคนทำร้ายบริเวณบ้านเขากล้วย หมู่1ต.พวา จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมกับ พ.ต.อ.พรรษา โกศลานันท์ ผกก.สภ.แก่งหางแมว จนท.ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง และ จนท.ป่าไม้

ที่เกิดเหตุริมสวนยางพาราของชาวบ้าน พบซากช้างเพศผู้ อายุราว3ปี น้ำหนักราว500กิโลกรัม นอนตะแคงขวา บริเวณขาหน้าข้างขวา เลยข้อเท้ามีรอยถูกบ่วงรัดเป็นแผลลึกแต่แผลเริ่มแห้งใกล้หายแล้ว ส่วนบริเวณสะโพกข้างซ้ายมีรอยถลอกหลายแห่ง และโคนขาขวาบวมเป่งและมีรอยคล้ายรูกระสุน คาดว่าล้มมาแล้วไม่น้อยกว่า4ชั่วโมง บริเวณพื้นดินใกล้ซากช้างพบร่องรอยผานหน้ารถไถดันดินเป็นทาง จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าช้างป่าตัวนี้ ชาวบ้านเรียกวาพลายไอซ์ เคยติดบ่วงได้รับบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้ ทีมสัตวแพทย์จาก สบอ.2เคยเข้ามารักษาจนอาการเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ยังเดินไม่ค่อยสะดวกและออกหากินละแวกนี้ประจำ จนกระทั่งมาพบว่าล้มตายช่วงสายวันนี้

ต่อมา นายเผด็จ ลายทอง ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ.2(ศรีราชา)พร้อมนายสัตวแพทย์หญิงณฐนน ปานเพชร เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุชันสูตรเบื้องต้นก่อนใช้รถเฮี๊ยบ โดยได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลตำบลพวา ยกซากช้างเคลื่อนไปยังฐานปฏิบัติการป่าไม้บ้านคลองเรือแตก หมู่8 ต.พวา ห่างจากจุดพบซากช้าง5กม. พร้อมกับนิมนต์พระสงฆ์4รูปมาประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณีโบราณ ก่อนทำการผ่าซากช้างพิสูจน์ ผลการผ่าเบื้องต้นพบลูกตะกั่วลักษณะบี้แบนฝังติดอยู่ในกระดูกขาหลังของช้าง และลำตัวรวม 2เม็ด คาดเป็นสาเหตุทำให้ช้างบาดเจ็บจนล้มตาย นอกจากนี้สัตวแพทย์ยังได้เก็บชิ้นเนื้อและอวัยวะภายในเช่นหัวใจ ม้าม ตับ ไต ปอด ถุงน้ำดี ไปตรวจพิสูจน์อีกด้วย จากนั้นได้ดำเนินการฝังกลบตามระเบียบทางราชการ

...

นายเผด็จ ลายทอง ผอ.ส่วนอนุรักษ์ฯเผย ว่าพบหลักฐานช้างตายเพราะถูกกระทำจากมนุษย์ ซึ่งจะได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงาานสอบสวน  ดำเนนิคดีเอาผิด ตาม พรบ.คุ้มครองสัตว์ป่า ต่อไป