สมพงษ์ เลือดทหาร อดีตแท็กซี่ลวงโลก ฝากข้อคิดถึง พีทคนขายหวย 90 ล้าน ให้ดูตนเป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้โด่งดังในทางที่ผิด ให้ยอมรับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม...


จากเหตุการณ์ที่เป็นข่าวโด่งดังในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เมื่อนายธนวรรธน์ คำแหงผล หรือ พีท อายุ 35 ปี คนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จังหวัดสมุทรสาคร กุเรื่องว่ามีผู้ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 15 ใบรวมมูลค่า 90 ล้านบาท หมายเลข 754510 แล้วเก็บรักษาพร้อมนำลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวไปมอบให้กับเจ้าของ จนเกิดกระแสชื่นชมในความเป็นคนดีของนายธนวรรธน์ จนแผงลอตเตอรี่ที่นายธนวรรธน์มีลูกค้าแน่นขนัดเต็มไปด้วยคนที่มาชื่นชมยินดี และช่วยอุดหนุนซื้อลอตเตอรี่

แต่แล้วเรื่องนี้กลับถูกเปิดเผยโดยเพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมถึงความมีพิรุธของสลากฯ ชุดนี้ สุดท้ายนายธนวรรธน์ หรือ พีท ก็ยอมรับว่ากุเรื่องขึ้นมา กระทั่งศาลจังหวัดสมุทรสาครได้อนุมัติออกหมายจับ เลขที่ 3 จ 319/61 ลงวันที่ 8 กันยายน 2561 ให้จับกุมนายธนวรรธน์ ในความผิดฐาน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

...

ทั้งนี้ กรณีของนายพีทถูกนำไปโยงและเปรียบเทียบกับกรณีของนาย สมพงษ์ เลือดทหาร โดยย้อนกลับไปเมื่อ 21 ปีก่อนในปี 2540 นายสมพงษ์ที่สมัยนั้นประกอบอาชีพคนขับแท็กซี่กุเรื่องว่าเก็บเงินของนชาวต่างชาติได้ 20 ล้านบาทภายในรถของตน จนมีคนชื่นชมจำนวนมาก สุดท้ายเป็นเรื่องโอละพ่อ นายสมพงษ์ถูกควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฏหมาย

ในวันที่ 8 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนายสมพงษ์ เลือดทหาร อายุ 58 ปี ที่ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา พบว่านายสมพงษ์ตอนนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่แสนเรียบง่าย อยู่กับภรรยา ลูกชายและหลานอีก 2 คน ใช้ชีวิตประจำวันแบบพอเพียง ประกอบอาชีพเกษตรกรรม อาศัยพื้นที่รอบบ้านเลี้ยงไก่ ปลูกผัก เลี้ยงปลาเบญจพันธุ์ และมีอาชีพเสริมเป็นนักร้องที่ร้านอาหาร หรือตามงานพิธีต่างๆ โดยใช้นามในวงการนักร้องว่า "ทศพล ฉิมวัลย์" เนื่องจากมีใบหน้าละม้ายคล้ายกับทศพล หิมพานต์


นายสมพงษ์ เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องข่าวผู้ถูกหวย 90 ล้าน ตนเองก็รู้สึกยินดี ยังพูดคุยกับภรรยาถึงบุญวาสนาของผู้ที่ถูกหวย แต่พอมาทราบเรื่องว่า คนขายหวยกุเรื่องขึ้นมาพร้อมมีคนมาโยงถึงเรื่องตนในอดีต ก็เลยอยากฝากเป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้โด่งดังในทางที่ผิด ไม่ได้ต้องการกระแสใดๆ แต่ต้องการสื่อเพียงให้ตนเป็นตัวอย่างในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามความผิด ที่ผ่านมาตนเองได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ได้ฝึกและได้คิดทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อผ่านจุดนั้นมาก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และไม่อยากให้ใครที่ต้องการโด่งดังสร้างเรื่องในทางที่ผิด เพราะสุดท้ายแล้วไม่มีใครสามารถโกหกความจริงได้ จึงอยากฝากเรื่องนี้ไว้ให้กับผู้ที่กระทำผิดและกำลังหลงผิด ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องจะดีกว่า