หนีไม่พ้น “เสี่ยอ้วน” จอมบงการฆ่าน้องสปาย-น้องฟอส ไม่พ้นกรรม ชุดสืบสวน ของจเรตำรวจแห่งชาติ เข้าไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่กัมพูชาเพื่อขอรับตัวกลับมาดำเนินคดี หลังโดนทางการกัมพูชาล็อกตัวได้ขณะเตรียมหลบหนีเข้าเวียดนาม คาดนำตัวกลับโดยทางรถยนต์ด้าน อ.อรัญประเทศ

เสี่ยอ้วน” นายปัญญา ยิ่งดัง อายุ 39 ปี เจ้าของสถานบันเทิงย่านหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต แก๊งฆ่า น.ส.ปวีณา หรือสปาย หรือปลาย นาเมืองรักษ์ กับนายอนันตชัย หรือฟอส จริตรัมย์ เพื่อนสนิท คาลานจอดรถตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เพราะผิดหวังรักเหยื่อสาว หลังเกิดเหตุตำรวจตามลากคอสมุนร่วมแก๊งได้ครบทั้ง 5 คน ส่วนเสี่ยจอมโหดหนีไปกบดานฝั่งกัมพูชา แต่ไม่พ้นโดนรวบตัวแล้วเตรียมนำกลับมาดำเนินคดีตามกบิลเมือง

การจับกุมจอมบงการฆ่าอุกอาจน้องสปายกับน้องฟอส เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 15 ส.ค. ชุดสืบสวนทีมของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ จำนวน 20 นาย เดินทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ประสาน พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อให้ประสานกับเจ้าหน้าที่กัมพูชาตรวจสอบข้อมูลหลังได้รับแจ้งว่าทางการกัมพูชาได้จับกุมตัวนายปัญญา หรือเสี่ยอ้วนได้แล้ว

ทางกัมพูชายืนยันว่านายปัญญา หรือเสี่ยอ้วน ถูกจับกุมตัวได้ที่เขตจังหวัดไปรเวงของประเทศกัมพูชา ติดกับชายแดนเวียดนาม ขณะกำลังจะหลบหนีเข้าเวียดนาม อยู่ระหว่างประสานเพื่อรับมอบตัวกลับมาดำเนินคดี สำหรับการส่งมอบตัว ต้องใช้วิธีผลักดันออกจากประเทศกัมพูชา ตำรวจไทยจะรอรับตัวยังจุดนัดหมาย มี 2 แห่ง คือสนามบินโปเชนตง กรุงพนมเปญ หรือใช้ทางรถยนต์ ผลักดันออกด้านชายแดนปอยเปต เข้าไทยทาง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว คาดว่าเสี่ยอ้วนน่าจะถูกผลักดันออกทางรถยนต์และจะกลับฝั่งไทยช่วงเย็นวันรุ่งขึ้น

...

สำหรับเสี่ยอ้วน ผู้ต้องหารายนี้เดิมเป็นคน จ.สุรินทร์ สมัยวัยรุ่นเคยไปทำงานกลางคืนอยู่ในเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้น 2541 ย้ายไปประกอบอาชีพอยู่ในพื้นที่ ต.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ยึดอาชีพเป็นเด็กนวดในห้องน้ำตามสถานบันเทิงด้วยความที่เป็นคนรู้จักเก็บหอมรอมริบจากเด็กห้องน้ำทำหน้าที่บริการนวด จัดผ้าเย็น ผ้าร้อน ให้กับบรรดานักเที่ยวเวลาเข้าไปปล่อยหนักทำงานด้วยความอดทนจนมีเงินเก็บจำนวนหนึ่งก่อนยกฐานะตัวเองจากเด็กบริการนวดในห้องมาเป็นผู้รับเหมาสัมปทานครอบคลุมห้องน้ำในสถานบันเทิงพื้นที่ป่าตอง

หลังมีเงินทุนขยับขยายลงทุนเปิดสถานบริการของต้นเอง เป็นเจ้าของบาร์เล็กในซอยตันหาดป่าตอง ทำได้ประมาณ 1 ปีก็ขายธุรกิจให้นักลงทุนต่างชาติ โดยในช่วงที่ทำบาร์ในซอยตัน เสี่ยอ้วนเก็บเงินและซื้ออาคารต่างๆรวมทั้งบ้าน จากนั้นขายบาร์ให้กับชาวต่างชาติ ต่อมาเสี่ยอ้วนเปิดบาร์อีกแห่ง เป็นบาร์ที่ทำมาจนถึงปัจจุบัน โดยเช่าที่จากเอกชนรายหนึ่งมาทำธุรกิจบาร์เบียร์ในถนนบางลา ต.ป่าตอง ภายในซอยอี่ซี่ หรือซอยปุ้มปุ้ยถึงปัจจุบัน ธุรกิจสดใส มีนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก เนื่องจากบาร์เสี่ยอ้วนจะมีผู้หญิงหน้าตาดีมาค่อยดูแลนักท่องเที่ยว และเช่าหอพักให้อยู่ทุกคน

อย่างไรก็ตาม แม้จะประสบความสำเร็จทางธุรกิจสถานบันเทิง แต่เรื่องความรักค่อนข้างอาภัพ แม้ว่าเสี่ยอ้วนจะเป็นคนใจปํ้าทุ่มไม่อั้นกับสาวคนที่ตัวเองชอบ โดยเฉพาะกรณีของน้องสปายพบว่าเสี่ยอ้วนใจปํ้าโอนเงินให้ครั้งละเป็นล้านบาท และก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 พ.ย.60 เสี่ยอ้วนเคยก่อเหตุยิงนายอำพัน สุขสวัสดิ์ อายุ 47 ปี เสียชีวิตบริเวณหอพักพนักงานบาร์ปุ้มปุ้ย แต่มีการต่อสู้คดีกันมาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดพบคดีนี้อัยการสั่งไม่ฟ้อง กระทั่งพาลูกน้องมาก่อเหตุยิง 2 ครั้งที่เขาชีจรรย์ ก่อนถูกรวบได้ยกทีม

ส่วนสมุนร่วมทีมฆ่า 5 คน ตำรวจจับกุมได้ครบแล้ว มีนายสายันต์ ศรีสุข อายุ 43 ปี คนชี้เป้า เดินทางมากับผู้ตายเป็นรายแรก จากนั้นนายเกียรติศักดิ์ หรือบอล สุรางค์แสงมีบุญ อายุ 35 ปี นายจิรศักดิ์ หรือป๊อปปี้ อุนัยบัน อายุ 34 ปี นายกฤษณะ หรือมด สีสุข อายุ 22 ปี และนายณรงค์ หรือบ่าว วรินทรเวช อายุ 22 ปี ถูกจับกุมและเข้ามอบตัวหมดตามลำดับ