‘ผู้การกบ’ กร้าวจี้ไล่ล่า พร้อม 2 สมุน ‘บ่าว-มด’
ตำรวจเค้นสอบปากคำ 2 สมุน “เสี่ยอ้วน” ทีมฆ่า “น้องสปาย” ยอมรับร่วมก่อเหตุแต่ไม่รู้ เห็นการลั่นไกฆ่าเหยื่อโหด แฉรถเก๋งโตโยต้ายาริส ไปเช่ามาใช้ในวันลงมือ เพราะต้องการอุ้มเหยื่อไปเจรจาก่อน แต่ถึงตอนลงมือกลับผิดแผน ผบก.ภ.จ.ชลบุรี เผยต้องจับกุมคนร้ายที่เหลืออีก 3 คน เสี่ยอ้วน คนบงการ และทีมมือปืน “ไอ้บ่าว” กับ “ไอ้มด” ประกาศหากต่อสู้ตำรวจต้องป้องกันตัว
คดีพิศวาสฆาตกรรม “เสี่ยอ้วน” หรือนายปัญญา ยิ่งดัง อายุ 39 ปี เจ้าของสถานบันเทิงย่านหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต วางแผนยกพวกกระหน่ำยิงเด็ดชีพ น.ส.ปวีณา หรือปลาย หรือสปาย นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย หรือฟอส จริตรัมย์ อายุ 21 ปี เพื่อนสนิท อย่างอุกอาจเย้ยกฎหมายคาลานจอดรถตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพราะผิดหวังรักน้องสปาย ตำรวจจับกุมนายสายันต์ ศรีสุข อายุ 43 ปี คนชี้เป้า นายเกียรติศักดิ์ หรือบอล สุรางค์แสงมีบุญ อายุ 35 ปี คนขับรถฮอนด้าซีอาร์วีพาเสี่ยอ้วนกับทีมมือปืนไปก่อเหตุ และนายจิรศักดิ์ หรือป๊อบปี้ อุนัยบัน อายุ 34 ปี ลูกน้องเสี่ยอ้วน คนขับรถโตโยต้ายาริส คุ้มกันทีมมือปืน เข้ามอบตัวที่ สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ส่วนเสี่ยอ้วน ผู้ต้องหาคนสำคัญหลบหนีไปอยู่ฝั่งกัมพูชา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสาน ทางการกัมพูชาตามลากคอมาชดใช้กรรม
ความคืบหน้าการรวบรวมหลักฐานเอาผิดแก๊ง เสี่ยจอมโหด เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 3 ส.ค. พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์ ผกก.สส.ภ.จ.ชลบุรี พร้อมกำลังคุมตัวนายจิรศักดิ์ หรือป๊อบปี้ อุนัยบัน ส่งมอบ พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับตัวมาจาก สภ.ป่าตอง นำขึ้นเครื่องบินมาลงที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อสอบสวนดำเนินคดี ซึ่ง นายจิรศักดิ์ ยอมรับเดินทางมากับเสี่ยอ้วน ทำหน้าที่ขับรถเก๋งโตโยต้ายาริสสีขาว ทะเบียน 1 กฏ 9490 กรุงเทพมหานคร ที่เช่ามาทำหน้าที่คุ้มกันทีมเสี่ยอ้วน และตามประกบกลุ่มผู้ตาย แต่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการสังหารโหดที่เกิดขึ้น แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่อง กระสุนปืน พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้ รับอนุญาต นำตัวไปแยกขังไว้ที่ สภ.เมืองพัทยา ไม่ให้พบกับนายเกียรติศักดิ์ หรือบอล ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้
ที่ สภ.นาจอมเทียน ท้องที่เจ้าของคดี ผู้สื่อข่าวแห่มารอตั้งแต่เช้า เนื่องจากคาดการณ์ว่าพนักงานสอบสวนต้องนำตัวนายเกียรติศักดิ์ หรือบอล และ นายจิรศักดิ์ หรือป๊อบปี้ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในช่วงบ่าย เนื่องจากตำรวจต้องส่งนายบอลไปฝากขังต่อศาลก่อนเที่ยงวันที่ 4 ส.ค. ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนคุมตัวนายเกียรติศักดิ์ไปสอบปากคำที่ห้องทำงาน พ.ต.ท.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน ทำให้ญาติของนายเกียรติศักดิ์ ที่มาเยี่ยมที่โรงพักต้องฝากของเยี่ยมไว้ ส่วนนายจิรศักดิ์ ตำรวจนำตัวมาถึง สภ.นาจอมเทียน เวลา 16.00 น. นำไปสอบปากคำที่ห้องฝ่ายสืบสวนสอบสวน โดยยังไม่ได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแต่อย่างใด นอกจากนี้ ตำรวจได้ส่งรถเก๋งโตโยต้ายาริสสีขาว ไปตรวจที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี
นายตำรวจทีมคลี่คลายคดีนายหนึ่ง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายบอล และนายป๊อบปี้ ทราบว่าทั้งคู่เป็นลูกน้องของเสี่ยอ้วน นายป๊อบปี้เดินทางด้วยเครื่องบินมาจาก จ.ภูเก็ต พร้อมกับเสี่ยอ้วนถึงสนามบินอู่ตะเภาตอนเย็นวันที่ 27 ก.ค. โดยนายบอลขับรถฮอนด้าซีอาร์วีล่วงหน้าขึ้นมาก่อน รับเสี่ยอ้วนกับนายป๊อบปี้ไปพักที่บ้านเช่าย่านนาเกลือ อ.บางละมุง เพื่อวางแผนกับทีมมือปืนอีก 2 คน ยัง ไม่ได้ออกหมายจับ คือนายบ่าว และนายมด ส่วนรถเก๋งโตโยต้ายาริส มีการไปเช่าในวันก่อเหตุ 29 ก.ค. เนื่องจากคนร้ายวางแผนดักอุ้มน้องสปาย กับนายฟอสไปพูดคุย แต่ทีมทำงานมี 5 คน เต็มรถฮอนด้า ซีอาร์วีแล้ว โดยนายป๊อบปี้เป็นคนขับรถเก๋งคันดังกล่าว มีนายมดนั่งประกบ ส่วนฮอนด้าซีอาร์วีนั่งมาด้วยกัน 3 คน คือนายบอล เสี่ยอ้วน และนายบ่าว หลังเกิดเหตุนายป๊อบปี้ขับรถไปส่งคืนเต็นท์นั่งเครื่องบินกลับ จ.ภูเก็ต ทันที ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จะทำในวันพรุ่งนี้ก่อนนำผู้ต้องหาไปฝากขัง
...
ต่อมา พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จ.ชลบุรี กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า คดีอยู่ระหว่างตามล่าตัวนายอ้วนหรือเสี่ยอ้วน กับพวกที่ยังหลบหนีอีก 2 คน คือนายบ่าว คนลงมือยิง และนายมด ผู้ต้องหาที่ได้ตัวแล้วมี 3 คน คือนายสายันต์ นายบอล และ นายป๊อบปี้ที่เข้ามอบตัว เย็นนี้ตนจะไปร่วมสอบปากคำด้วย ส่วนความสัมพันธ์ของผู้ตาย เป็นเรื่องของเขาแต่ที่เราสนใจคือเขาถูกกระทำ เราเห็นใจพ่อแม่พี่น้องของเขา ขอยืนยันว่าจะต้องจับเสี่ยอ้วนกับพวกให้ได้ พร้อมกำชับชุดไล่ล่าให้ระวังตัว หากผู้ต้องหาต่อสู้ตำรวจต้องป้องกันตัว ส่วนจะมีการยึดทรัพย์คนร้ายหรือไม่ หากเข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมายก็ยึด หากไม่เข้าเราก็ยึดไม่ได้