ตำรวจชลบุรีจับกุมสองสามีภรรยาผู้ผลิตอาหารเสริมลดความอ้วน ลีน ให้การภาคเสธ แต่ยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตจริงทั้ง 34 ล้านซอง แต่ไม่ได้ใส่สารไซบูทรามีน แต่เป็นผู้อื่น...
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน ที่ สภ.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 ได้ร่วมกันสอบสวนนายพันธ์ชนะ รัตนประสิทธิ์ อายุ 47 ปี ชาวบ้าน หมู่ 10 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และ น.ส.พิมพ์ลภัทร เอกอัครินทร์ อายุ 41 ปี ชาวบ้าน หมู่ 10 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี สองสามีภรรยาที่ขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลีน เกี่ยวกับการลดความอ้วน จนกระทั่งมีผู้บริโภคและถึงแก่ความตาย โดยสอบสวนนานประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การภาคเสธ แต่ยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตเสริมอาหารลีน 34 ล้านซอง แต่ไม่ได้ใส่สารไซบูทรามีน แต่เป็นผู้อื่น
หลังจากนั้น พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า กรณีที่มีผู้บริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อลดน้ำหนักยี่ห้อลีน ซึ่งมีส่วนผสมของไซบูทรามีน จนกระทั่งถึงแก่ความตายที่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จากการสืบสวนสอบสวนขยายผลจนทราบว่า ผู้ที่จำหน่ายและสั่งผลิตนั้นคือนายพันธ์ชนะ และ น.ส.พิมพ์ลภัทร สองสามีภรรยา และได้มีการอนุมัติจับกุมเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา จึงได้สั่งการให้ทีมชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่ติดตามตัวสองสามีภรรยาดังกล่าว จนกระทั่งพบว่าได้ขับรถเก๋ง BMW สีขาว 6263 ชลบุรี มาตามเส้นทางถนนสายข้าวหลาม ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี มุ่งหน้าเข้าบางแสน จึงได้สกัดและจับกุมตัวได้ดังกล่าว
...
จึงได้ตั้งข้อหาตามมาตรา 236 ผู้ใดปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ หรือจำหน่าย หรือเสนอขาย สิ่งเช่นว่านั้นเพื่อบุคคลเสพหรือใช้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
ต่อมาเวลา 17.45 น. พล.ต.อ.วิระชัย ไปค้นออฟฟิศบริษัท เอกอัครินทร์ จำกัด พบอาหารเสริมลีน 4,000 กว่าซอง ได้ตรวจยึดไว้ และจะขยายผลผู้ต้องหาว่ามีเก็บไว้ที่ไหนอีก จะได้ตามไปยึดต่อเพื่อไม่ให้ถึงมือผู้บริโภค ส่วน 2 ผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข ไปคุมตัวไว้ก่อนแล้วประสานพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าของคดีได้เดินทางมารับตัวไปดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วน น.ส.พิมพ์ลภัทร กล่าวว่า ตนอยากมีธุรกิจส่วนตัวจึงได้ทำตัวนี้ขึ้นมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่เมื่อวันนี้ผลลัพธ์ออกมาแบบนี้ทำให้หลายๆ คนมองตนเป็นฆาตกรไปแล้ว อย่างไรก็ตามก็ได้เตรียมเอกสารหลักฐานไว้สู้คดีในศาลแล้ว สำหรับผู้เสียชีวิตเราก็ได้แค่บอกว่ารู้สึกเสียใจ และถ้า สคบ.จะให้เราทำย่างไรเราก็ยินดี ส่วนเรื่องยอมรับผิดหรือไม่ ขอไปให้การในชั้นศาล.