มาอีกแล้วขยะเต็มหาดแหลมงู เรือใหญ่มักง่ายแอบทิ้ง ด้านนายกเกาะสีชังสุดทน ร้องขอ ก.มหาดไทย จำเป็นต้องมีกฎหมายมอบอำนาจให้ท้องถิ่น จัดการเรื่องขยะในทะเลเองได้...


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 มิ.ย.2561 ที่ แหลมงู ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี นายดำรงค์ เภตรา นายกเทศบาลตำบลเกาะสีชังได้ลงพื้นที่บริเวณชายหาดแหลมงู พร้อมด้วยนายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเกาะสีชัง นายนวธร ธนเศรษฐ ปลัดเทศบาลตำบลเกาะสีชัง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศบาลตำบลเกาะสีชัง ตรวจสอบขยะและทำการเก็บขยะที่ยังมีการลักลอบมาทิ้งจากเรือขนส่งสินค้าหลังก่อนหน้านี้ได้มีขยะจำนวนมากเต็มทั้งหาดแหลมงูกว่า 100 เมตรและได้มีการจัดเก็บไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีขยะลอยมาติดบริเวณชายหาดแหลมงูอยู่อีก

นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเกาะสีชัง เปิดเผยว่า จากปัญหาขยะที่ลอยขึ้นมาติดที่เกาะสีชัง ซึ่งเป็นขยะมาตามฤดูกาลก็คือ ในช่วงนี้จะเป็นหน้าลมนอก ลมจะพัดขยะที่อยู่ในทะเลเข้ามาที่ฝั่ง ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นขยะที่มาจากเรือใหญ่แล้วก็ขยะที่มาจากพื้นที่อื่น เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาในเบื้องต้นในส่วนของส่วนราชการก็พยายามที่จะระดมเจ้าหน้าที่มาช่วยกันเก็บกวาดและเฝ้าระวังการลักลอบทิ้งขยะ ในส่วนของกฎหมายจะมีเจ้าหน้าที่หลักในการดูแลคือ กรมเจ้าท่า จึงอยากจะฝากไปยังกรมเจ้าท่าให้พิจารณาถึงการมอบอำนาจให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดูแลในตรงนี้ ให้มีอำนาจในการที่จะกวดขันจับกุม เฝ้าระวัง ซึ่งจะทำให้มีการจัดการผู้กระทำความผิดได้อย่างเต็มที่และได้ผล

...


นายอำเภอเกาะสีชัง กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาในเรื่องของปัญหาขยะบนเกาะสีชัง เราดำเนินการมายาวนานมากแล้ว และกฎหมายหลักๆ นั้นมีหน่วยงานที่ดูแลคือกรมเจ้าท่า ในขณะเดียวกันในการเข้าไปดำเนินการค่อนข้างลำบากในเรื่องของข้อกฎหมาย แต่ทางเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้เข้าพบและพูดคุยกับอธิบดีคนใหม่ ท่านได้สั่งการให้รองอธิบดีคนใหม่ นายกริชเพชร ชัยช่วย และผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 จ.ชลบุรี นายพิสุทธิ์ อมรยุทธ์ ให้เร่งดำเนินการเพื่อจัดประชุมตัวแทนเรือสินค้าต่างประเทศกับเจ้าของสินค้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รับรู้ว่าในการที่จะนำขยะ หรือให้เรือบริการที่ไม่ถูกต้องให้ดำเนินการให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นจะดำเนินการถอนใบอนุญาต

ด้าน นายดำรงค์ เภตรา นายกเทศบาลตำบลเกาะสีชัง กล่าวว่า ทางด้านตนเองและคณะผู้บริหารเทศบาลตำบลเกาะสีชังได้เคยนำเรียนเสนออธิบดีกรมเจ้าท่าไปว่า ถ้าเป็นไปได้มาตรา 17 ของกรมชายฝั่งนั้น น่าจะเอามาใช้ในพื้นที่ตรงนี้เพราะโทษมันจะแรงพอสมควร ซึ่งของกรมเจ้าท่านั้นกฎหมายจะอ่อนไปในเรื่องการดำเนินการกับฝุ่นละออง ขยะบนเรือ ในเวลานี้ทางเทศบาลตำบลเกาะสีชังไม่ทราบเกี่ยวกับเรือนำเข้า และตรวจสอบอะไรไม่ได้ ซึ่งทางเรือสินค้าเหล่านี้ยังใช้วิธีการจ้างเรือรับจ้าง เรือที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบกฎหมายนำขยะลงมาและมาทิ้งอย่างไม่ถูกต้องทั้งการลักลอบทิ้งในทะเล ซึ่งขยะเหล่านี้ที่ถูกทิ้งไปแล้วนั้นนอกจะสร้างมลพิษทางน้ำที่จะส่งผลต่อสัตว์น้ำแล้วขยะเหล่านี้อาจจะมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคต่างๆ จะเห็นได้ว่าทางเทศบาลตำบลเกาะสีชังพยายามเก็บทุกวัน ซึ่งที่ทำอยู่คือปลายเหตุ อยากฝากไปถึงผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ โดยเฉพาะท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่ากฎหมายของมหาดไทยที่ออกมานั้นดีแล้วแต่อย่าลืมในทะเลเพราะว่าในทะเลมันมีค่ากำจัดค่าขน และจะต้องเอาไปดำเนินการให้ถูกต้อง.