ของมาแรง 'เฟรนช์ฟรายทุเรียน' อีกหนึ่งทางเลือก สำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานสด แม้ปีนี้ราคาทุเรียนจะดีดสูงก็ตาม โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้่างรายได้ให้อย่างงามแก่ชาวบ้านที่จันทบุรี...
วันที่ 7 พ.ค.61 ปีทองของชาวสวนทุเรียนภาคตะวันออก ที่ผู้บริโภคมีความต้องการสูงทั้งตลาดในและต่างประเทศ ทำให้ครอบครัวของ นางสุนันทา ศักดิ์มั่น หรือ ครูป้อม ครูประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เทศบาลตำบลสนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี พร้อมกับครอบครัว ใช้โอกาสในช่วงของกระแสทุเรียนที่กำลังเป็นผลไม้ยอดนิยมในช่วงนี้ หันมาหารายได้เสริม ด้วยการวิ่งหาซื้อทุเรียนหมอนทอง แม้จะมีราคาสูง นำมาดัดแปลง แปรรูปเป็นทุเรียนทอดกรอบ แต่เปลี่ยนรูปแบบจากเดิม ที่หั่นเป็นชิ้นบางๆ มาเป็นการหั่นเป็นเส้นแบบเฟรนช์ฟราย จนมีกระแสนิยมโทรมาส่งจองแบบไม่ขาดสาย
สำหรับขั้นตอนการทำ เริ่มตั้งแต่การปอกทุเรียน การแกะเนื้อ และการหั่นซอยชิ้นเนื้อทุเรียนให้เป็นแท่งยาว ที่มีรูปทรงคล้ายกับมันฝรั่งทอด ก่อนจะนำลงไปทอดบนกระทะพร้อมกับน้ำมันพืช ที่ตั้งไปรอไว้จนเดือด จากนั้น ก็จะค่อยใช้ตะแกรงคอยคน และพยายามพลิกแท่งเนื้อทุเรียน ให้ได้รับความร้อนอย่างทั่วถึงกัน โดยใช้เวลาการทอดประมาณ 3 นาที เมื่อเห็นเนื้อทุเรียนเริ่มได้ที่แล้ว ก็จะใส่เกลือลงไป แล้วตักมาใส่กระชอน รอให้สะเด็ดน้ำมันสักพัก จากนั้นก็จะนำมาทำการซับน้ำมันด้วยกระดาษซับน้ำมันอีกครั้ง ซึ่งก็จะได้รสชาติ หวาน มัน กรอบ ก่อนจะบรรจุใส่ถุงเป็นแพ็คเกจ สำหรับส่งให้ลูกค้า โดยสนนราคา อยู่ที่ถุงละ 100 บาท โดย 1 ถุง จะมีน้ำหนัก 100 กรัม และหากจะขายเป็นกิโลกรัมก็จำหน่ายกิโลกรัมละ 1,000 บาท กันเลยทีเดียว
...
สำหรับทุเรียนทอดในปีนี้ มีราคาค่อนข้างดีดตัวสูงขึ้นมาจากปีที่ผ่านมา ค่อนข้างมาก เนื่องจากทุเรียนในท้องตลาดมีความต้องการสูง ทำให้ทุเรียนดิบขนาดที่เกินไซส์ บรรจุลงกล่องส่งออกขายยังประเทศจีน มีราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัว ต้นทุนการทำทุเรียนทอดจึงแพงขึ้น อย่างทุเรียนหมอนทองของครอบครัวศักดิ์มั่น ที่ทำการแกะเนื้อจากผล ลูกหนึ่งมีน้ำ 7-8 กิโลกรัมต่อผล เมื่อนำเปลือกและเมล็ดออก จะเหลือเพียงแค่เนื้อทุเรียนบริสุทธิ์เพียงแค่ 2 กิโลกรัม เท่านั้น
นางสุนันทา ศักดิ์มั่น กล่าวว่า เฟรนช์ฟรายทุเรียน ถือเป็นการดัดแปลงอาหาร เพื่อเสริมรายได้ให้กลับครอบครัว ในช่วงฤดูผลไม้ของภาคตะวันออกเป็นอย่างดี เนื่องจากรสชาติและความแตกต่าง จะผิดไปจากทุเรียนทอดทั่วไปที่โดดเด่นออกมา เมื่อได้ทำการสัมผัสด้วยการรับประทาน พบว่า มีความกรอบและหนึบ พร้อมกับได้ลิ้มรสของเนื้อทุเรียนที่รู้สึกได้ทันที แตกต่างจากทุเรียนทอดแบบหั่นชิ้นสไลด์แบบบาง ที่มีเพียงแค่ความกรอบและความมันอย่างเดียว.