ชาวไร่สับปะรด กระอัก! ราคาตกต่ำในรอบ 10 ปี กก.ละ 2 บาทเศษ เตรียมเคลื่อนไหวขอความช่วยเหลือรัฐติดต่อ 'แจ็ค หม่า' ช่วยขายทุเรียนพ่วงสับปะรด หรือซื้อ 1 แถม 2 ก็ได้
สมาคมพัฒนาสับปะรดไทย ภาคตะวันออก ได้มีการนัดหารือบรรดาแกนนำชาวไร่สับปะรด 5 จังหวัดภาคตะวันออก ประชุมที่เทศบาลตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง เพื่อหารือและกำหนดแนวทางเพื่อรับมือกับปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำในช่วงพีคที่ชาวไร่จะเก็บเกี่ยวผลสับปะรดเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ซึ่งจะถึงกำหนดระยะเก็บเกี่ยวในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ซึ่งคาดว่า ราคาสับปะรดจะตกต่ำที่สุด เนื่องจากปริมาณสับปะรดในช่วงนี้มีปริมาณมากกว่าปกติ เพราะสภาพอากาศปีนี้ส่งผลทำให้สับปะรดออกผลดีเป็นพิเศษ
โดยคาดการณ์ว่า ราคาสับปะรดจะตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 1 บาทเศษเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนการปลูกและผลิตสับปะรดที่เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละเกือบ 5 บาท ด้วยกัน และจะยิ่งส่งผลทำให้ชาวไร่สับปะรดประสบปัญหาขาดทุนหนักขึ้นไปอีก หลังจากที่ผ่านมาชาวไร่สับปะรดได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำเรื่อยมาตั้งแต่ตันปี 2560 และเวลานี้ขายส่งโรงงานอยู่กิโลกรัมละ 2 บาทเศษเกือบ 3 บาท เท่านั้น และในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน นี้ ที่จะมีการเกี่ยวผลผลิตสับปะรด คาดว่า จะมีสับปะรดเหลือล้นตลาด ที่กำลังโรงงานรับซื้อไม่ไหวอยู่เกือบ 2 หมื่นตัน ด้วยกัน นี่เป็นภาพรวมเฉพาะผลผลิตสับปะรดใน 5 จังหวัดภาคตะวันออก ขณะที่ภาพรวมผลผลิตทั้งประเทศแล้วจะมีสับปะรดเหลือส่งโรงงานหรือล้นตลาดรวมแล้วกว่า 1 แสนตัน
นายอรุณ อินทร์แก้ว กรรมการสมาคมพัฒนาสับปะรดไทย ภาคตะวันออก กล่าวว่า ปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำ ได้เกิดมาตั้งแต่ต้นปี 2560 ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีภาคราชการหรือรัฐบาล ได้ยื่นมือเข้ามาให้การช่วยเหลือและแก้ปัญหาแต่อย่างใด ส่งผลทำให้ชาวไร่สับปะรด ต่างประสบปัญหาความเดือดร้อนและขาดทุนกันอย่างทั่วหน้า โดยราคาที่ขายอยู่กิโลกรัมละ 2 บาทเศษ จะได้เป็นเฉพาะค่าแรงงานเท่านั้น หากไม่ได้รับการช่วยเหลือเชื่อว่าชาวไร่สับปะรดเดือดร้อนสาหัสแน่ จึงอยากเรียกร้องขอให้รัฐบาลได้เร่งลงมาช่วยเหลือแก้ปัญหาเป็นการด่วน นอกจากนั้น อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือติดต่อ "แจ็ค หม่า" อาลีบาบา ซื้อทุเรียนไปพ่วงสับปะรดบวกไปด้วย หรือซื้อหนึ่งแถมสองก็ได้ เพื่อช่วยเหลือชาวสับปะรด มิฉะนั้นเมื่ออยู่ไม่ได้ ตนทำสับปะรด 300 ไร่ ทำมา 20 กว่าปี คงต้องล้างมือเลิกแน่
...
ด้านนายศิริ ชมชาญ ที่ปรึกษาสมาคมพัฒนาสับปะรดไทย ภาคตะวันออก กล่าวว่า ปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นถือว่า ตกต่ำหนักในรอบ 10 ปี และปัญหาที่เกิดขึ้นสมาคมพัฒนาสับปะรดไทย ภาคตะวันออก เตรียมส่งตัวแทนเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อยื่นเสนอปัญหาความเดือดร้อนให้รับทราบ เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นการเร่งด่วนต่อไป ในส่วนของสับปะรดที่ล้นตลาดนั้น ทางสมาคมฯ จะแนวเสนอที่จะกระจายผลผลิตออกนอกพื้นที่ไปขายในต่างจังหวัดที่ไม่มีการเพาะปลูกสับปะรด เพื่อการบริโภค อีกทั้งนำไปทำเป็นอาหารสัตว์ และนำไปทำเป็นน้ำสับปะรด ต่อไป แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้น รัฐบาลจะต้องช่วยเหลืองบประมาณในการดำเนินการ