กระบะบรรทุกแรงงานต่างด้าวเต็มคันมุ่งหน้าสู่มหาชัย จ.สมุทรสาคร พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกเหล็กจนรถกระบะพลิกตะแคงข้างบาดเจ็บรวม 5 คนตรงทางคู่ขนาดสาย 7 ตอน 2...
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 4 เมษายน 2561 ร.ต.อ.ดิเรก พิมพา ร้อยเวร สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกเหล็กบริเวณทางคู่ขนาดสาย 7 ตอน 2 ฝั่งขาเข้า กทม.ก่อนถึงสะพานแม่กิมบ๊วย ม.5 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย หลังรับแจ้งจึงรีบรุดเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ถบ8681 กรุงเทพมหานคร พลิกตะแคงข้างขวางถนน โดยมีนายอภิชาติ บัวเหลือง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/10 ม.10 ต.ภูมิสัย อ.ภูมิสัย จ.หนองคาย แสดงตัวเป็นคนขับยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ห่างออกไปไม่ไกลนักพบรถบรรทุกเหล็กหมายเลขทะเบียน 70-45440 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ
นายบุญมี วงปิ่น ชาวบ้าน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ แสดงตัวเป็นคนขับซึ่งรถพ่วงคันดังกล่าว ระบุว่า ได้บรรทุกเหล็กมาจากท่าเรือแหลมฉบังจะนำไปส่งยังโรงงานแห่งหนึ่งที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บจำนวน 5 ราย นอนร้องขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องกระจายกำลังกันเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 5 รายต่อมา คือ 1.นายซานวิน ชาวพม่า อายุ 52 ปี 2.นายโม ชาวพม่า อายุ 42 ปี 3.นายโมมิน ชาวพม่าอายุ 34 ปี 4.นายเหนียนเพียง เตด ชาวพม่า อายุ 19 ปี และนายอภิชิต บัวหลวง ชาวไทย อายุ 28 ปี
...
ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดนั้นมีบาดแผลจากการถูกเศษกระจกบาดและมีบาดแผลถลอกตามร่างกาย หลังจากปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วจึงนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชาเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาบาดแผลอีกครั้ง
ด้านนายอภิชาติ บัวเหลือง ผู้ขับรถกระบะ เปิดเผยว่า ตนเองได้รับแรงงานต่างด้าวทั้งชาวไทยและชาวพม่ารวม 7 คนมาจากนิคมอุสาหกรรมปิ่นทอง 1 มุ่งหน้าสู่ตลาดมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ระหว่างที่ตนเองขับรถมาบริเวณก่อนถึงสะพานแม่กิมบ๊วย ตนเองอยู่ในเลนขวา หักรถมาทางซ้ายเพื่อที่จะแซงรถคันข้างหน้าแต่มีรถพ่วงบรรทุกเหล็กอยู่ตนจึงเบรกไม่ทันก่อนที่จะเสียหลักพุ่งชนท้ายรถพ่วงอย่างแรงจนทำให้รถพลิกตะแคงข้างดังกล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพสถานที่เกิดเหตุเอาไว้เป็นหลักฐานและหลังจากนี้จะทำการสอบสวนทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป.