2 หนุ่ม ซิ่ง รถจยย.ผ่าไฟแดงบริเวณ สี่แยกเทคโนโลยีแหลมฉบัง พุ่งชนกลางลำรถพ่วงเทรลเลอร์ เสียชีวิตอนาถ 2 ราย ตร.เร่งสอบสวนคนขับรถพ่วงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 11มี.ค. ร.ต.อ วีรยุทธ กางกาละ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ. แหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ พุ่งชนรถพ่วงเทรลเลอร์ มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย เหตุเกิดบริเวณ สี่แยกเทคโนโลยีแหลมฉบัง หมู่ 10 ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา

ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรถพ่วงเทรลเลอร์ หัวสีขาว หมายเลขทะเบียน ส่วนหัว 71-0082 เพชรบุรี หมายเลขทะเบียน ส่วนหาง 71-0083 เพชรบุรี โดยมีนายปิยะพล จำนงค์อุดม อายุ 33 ปี แสดงตัวเป็นคนขับ โดยยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ห่างออกไปไม่ไกลนัก พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ pcx สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กน 6994 ชลบุรี จอดอยู่ในที่เกิดในสภาพพังเสียหายยับเยิน ซึ่งในที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1ราย ทราบชื่อต่อมา คือ นายพีระพงษ์ พุฒพันธ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ต.ค้อทอง อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ส่วนอีกรายทราบชื่อ ต่อมา คือ นายธงชัย เทตะรัตน์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 7 ต.หนองบัว อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม โดยทางทีมแพทย์ของโรงพยาบาลวิภาราม แหลมฉบัง ได้นำตัวไปเนื่องจากขณะนั้นยังมีชีพจรอยู่ ซึ่งในเวลาต่อมา รับแจ้งจากทีมแพทย์ว่า นายธงชัย ได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบันทึกภาพสถานที่เกิดเหตุเอาไว้เป็นหลักฐาน

...

จากการสอบถาม นายปิยะพล เป็นคนขับรถพ่วงเทรลเลอร์ ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากเครือสหพัฒน์ มุ่งหน้าไปทางท่าเรือแหลมฉบัง โดยได้ผ่าสัญญาณไฟจราจรมา แต่ในจังหวะนั้น ได้มีรถพ่วงเทรนเลอร์ของตนกับลังเลี้ยวขวาออกมาจากซอยเทโนโลยีแหลมฉบังตามสัญญาณไฟเขียว เพื่อมุ่งหน้าเข้าท่าเรือแหลมฉบังพอดี จนทำให้รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตพุ่งชนเข้ากลางลำรถพ่วงเทรลเลอร์ของตนอย่างแรง ตนจึงรีบลงไปดู ก่อนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รีบเดินทางมาตรวจในที่เกิดเหตุ

ซึ่งอย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเคลื่อนย้ายไปที่ โรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตในครั้งนี้อีกครั้ง พร้อมกับควบคุมตัวคนขับรถพ่วงเทรลเลอร์ ไปทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป.