ช้างป่ากระทืบดับ “นาวาตรี” อดีตทหารพรานนาวิกโยธินวัย 59 ปี สยองคาสวนลำไย อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ส่วนลูกชายได้รับบาดเจ็บ ก่อนเกิดเหตุพ่อได้ยินเสียงหมาเห่าอยู่ท้ายสวนช่วงกลางดึก คิดว่ามีโจรเข้ามาขโมยลำไยเลยชวนออกไปสำรวจ ขณะเดินส่องไฟฉายดู จู่ๆ เจอช้างป่าตัวใหญ่โผล่ออกจากที่มืดปรี่เข้าประชิดตัว วิ่งหนีไม่ทันถูกช้างกระแทกล้มก่อนใช้หัวบดขยี้ร่างแล้วเตะกระทืบซ้ำ พยายามเข้าช่วยดึงร่างพ่อออกมากลับถูกช้างเตะกระเด็นจนไม่กล้าเข้าช่วย ได้แต่มองพ่อถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา นอภ.สั่งจัดชุดไล่ล่าช้างคลั่งหวังผลักดันกลับเข้าป่า

เหตุสลดใจ น.ต.อดีตทหารพรานถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. นายพีรณัฐ รัตนวรโอภาส นอภ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ได้รับแจ้งจาก ผญบ.หมู่ 4 บ้านทุ่งกร่าง ต.ทับไทร ว่ามีลูกบ้านถูกช้างป่าทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงสั่งการให้ปลัดอำเภอนำกำลัง อส. พร้อมประสานกำนันตำบลทับไทร ร.อ.วิระ คุณา ผบ.ร้อย ทพ.นย.ที่ 544 ฐานบ้านดงจิก และอาสาสมัครกู้ภัยสว่างกตัญญูจุดโป่งน้ำร้อน ไปให้ความช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเป็นสวนผลไม้ห่างจากถนนสายจันทบุรี-สระแก้ว ประมาณ 3 กม. พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ทราบชื่อ น.ต.ประภาส พรรณรัตน์ อายุ 59 ปี ข้าราชการบำนาญ อดีตทหารหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน กองทัพเรือ อยู่บ้านเลขที่ 300 หมู่ 3 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ได้รับบาดเจ็บสาหัสสภาพร่างกายบอบช้ำอย่างหนัก รีบช่วยเหลือนำส่ง รพ.โป่งน้ำร้อน แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนอีกคนชื่อนายอัครวัฒน์ พรรณรัตน์ อายุ 31 ปี ลูกชายของผู้ตาย บาดเจ็บเล็กน้อย อยู่ในอาการตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้น

สอบสวนนายอัครวัฒน์ให้การว่า หลังพ่อออก จากราชการกลับมาทำสวนผลไม้ที่บ้าน ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่า พ่อได้ยินเสียงสุนัขเห่ากระโชกบริเวณท้ายสวนลำไยนานผิดสังเกต คิดว่าเป็นคนร้ายเข้ามาขโมยลำไย จึงชวนตนเดินเข้าไปสำรวจในสวน ขณะที่พ่อใช้ไฟฉายส่องดูความเรียบร้อยอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีช้างป่าขนาดใหญ่ตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากที่มืดเดินปรี่เข้ามาประชิดเบื้องหน้า ด้วยความตกใจพ่อบอกให้รีบวิ่งหนี แต่เพียงหันหลังจะออกตัววิ่ง ช้างป่าพุ่งเข้ากระแทกใส่ร่างพ่อจนล้มลงกับพื้นพร้อมทั้งเอาหัวกระแทกลงไปที่ร่างและเตะกระทืบซ้ำอีกหลายครั้ง

...

ลูกชายเหยื่อช้างป่าให้การต่อไปว่า จังหวะนั้นตนพยายามเข้าไปดึงร่างพ่อที่อยู่ในหว่างขาของช้าง จนถูกช้างป่าเตะกระเด็นได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ซ้าย จึงไม่กล้าเข้าไปช่วย ได้แต่มองช้างทำร้ายพ่อจนแน่นิ่งแล้วเดินผละหายไปกับความมืดหนีกลับเข้าป่าไป จากนั้นตนรีบวิ่งไปบอกเพื่อนบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ หลังเกิดเหตุนายอำเภอโป่งน้ำร้อนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจัดชุดติดตามล่าหาช้างป่าตัวดังกล่าวเพื่อผลักดันกลับเข้าป่า ขณะเดียวกันให้ผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชาวบ้านให้เพิ่มความระมัดระวังช้างที่ออกจากป่ามาหากินผลไม้ตามสวนของชาวบ้าน