กรณีวัดที่เมืองชล ก่อกำแพงปูนปิดทางเข้าออกด้านหลังที่ใช้มากว่า 50 ปี จนเกิดเป็นข้อพิพาท ล่าสุดชาวบ้านบุกร้อง นอภ.เสนอแก้ปัญหาโจรชุม-รถเสียงดัง ด้วยการพบกันครึ่งทาง ให้คนเข้าได้ แต่ห้ามรถ ฝ่ายกำนันขอเปิดเช้า-เย็นปิด เหมือนเดิม...

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ส.ค. นายวันชัย ทองอยู่ กำนัน ต.คลองตำหรุ และ นายเสน่ห์ ทองอยู่ อายุ 73 ปี แกนนำพร้อมตัวแทนชาวบ้านประมาณ 10 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกรณี วัดบุญญราศรี ต.คลองตำหรุ ก่อกำแพงปูนปิดทางเดินเข้าออกด้านหลังวัดที่ชาวบ้านใช้กันมานานกว่า 50 ปี สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน และนักเรียนที่ต้องเดินไปโรงเรียนต่อ นายศิรัษฏ์ ประสพเนตร นายอำเภอมืองชลบุรี โดยมี นางวชิรา น่วมเจริญ ผอ.สำนักพุทธศาสนา จ.ชลบุรี ร่วมรับหนังสือ

นายศิรัษฏ์ กล่าวว่า นายอำเภอเมืองชลบุรี ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากทางวัดพบว่ามีคนร้ายเข้าไปลักขโมยสิ่งของและมั่วสุมเสพยาเสพติด ประกอบกับเจ้าอาวาสวัดมีสิทธิ์ในที่ธรณีสงฆ์ จะดำเนินการอย่างไรก็ได้ แต่ในความเป็นจริงเมื่อชาวบ้านใช้เส้นทางนี้มานาน ควรจะมีการปรึกษาหารือกัน ซึ่งจะได้มีการหารือกับเจ้าอาวาสวัดเพื่อแก้ไขปัญหานี้อีกที

...

ด้าน นางวชิรา น่วมเจริญ ผอ.สำนักพุทธ จ.ชลบุรี กล่าวว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติดจริง ทรัพย์สินภายในวัดหายไป ซองเก็บกระดูกตามกำแพงวัดถูกรื้อทุบแตก ทางวัดจึงต้องปิดประตูไม่อยากให้ใครผ่านเข้า-ออก อย่างไรก็ตาม จะปรึกษากับเจ้าอาวาสเพื่อให้ทางวัดกับชาวบ้านพบกันครึ่งทาง โดยขอให้ทางวัดทำประตูให้นักเรียนและชาวบ้านเดินเข้าออกได้ ส่วนรถจักรยานยนต์และรถยนต์คงให้ผ่านไม่ได้ ถ้าเจ้าอาวาสวัดยินยอม คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา

ด้านนายวันชัย ทองอยู่ กำนัน ต.คลองตำหรุ กล่าวว่า ชาวบ้านอยากให้เปิดทางเข้า-ออกได้ และเปิดเช้า-เย็นปิดเหมือนเดิม เพราะทางประตูหลังวัดชาวบ้านใช้เป็นทางผ่านมานานกว่า 50 ปีแล้ว โดยเฉพาะนักเรียนที่ใช้เป็นเส้นทางเดินไปโรงเรียนชุมชนหมู่บ้านโรงเรียนวัดบุญญราศรี หากปิด ชาวบ้านกับนักเรียนต้องเดินเส้นทางอ้อมไกล และเสี่ยงอันตรายรถพลุกพล่านอีกด้วย

"ขอให้ทางวัดเห็นแก่ส่วนรวมชาวบ้านและเด็กนักเรียนด้วย หากทางวัดไม่ยินยอม ทราบว่าชาวบ้านทั้งตำบลจะรวมตัวกันลุกฮือประท้วง ซึ่งไม่อยากให้เรื่องบานปลาย ทำให้ชาวบ้านแตกแยกกับวัดในท้องถิ่น" นายวันชัย กล่าว.