ย่านำหลานนักเรียนที่ถูกลุงขับเบนซ์ตบ เข้าตรวจร่างกาย รพ.สมุทรสาคร เพื่อนำผลประกอบหลักฐานส่งให้ ตร. ขณะที่เด็กยังมีอาการหวาดกลัว ปวดหู เจ็บหน้าขา แต่ก็อุ่นใจที่ผู้ผิดออกมาขอโทษแล้วจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ทั้งหมด ด้านเสี่ยเบนซ์พร้อมที่จะว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม...


เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 ก.ค.60 นางจินดา สมพงษ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168/131 หมู่ที่ 5 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นย่าของนายที (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.3/11 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในใจกลางเมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นนักเรียนชายในคลิปที่ถูกนายมานะ นิ่มเนียม อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/6 ม.5 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เจ้าของรถเบนซ์ตบ ได้เข้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ตึกอุบัติเหตุ ห้องศัลยกรรม เพื่อนำผลการตรวจร่างกายตามใบรับรองแพทย์มอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบการพิจารณาคดี


นายที (นามสมมติ) เล่าว่า หลังเกิดเหตุตนเองมีอาการปวดหูข้างซ้ายและไม่ได้ยิน อีกทั้งยังรู้สึกเจ็บที่บริเวณหน้าขาทั้งสองข้าง กับแขนซ้ายก็บาดเจ็บ ซึ่งวันที่เกิดเหตุนั้น ตนได้ไปทำธุระกับเพื่อนย่านอ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม พอขากลับก็กำลังจะแวะเข้าไปเติมน้ำมัน แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ซึ่งความรู้สึกของตนนั้น ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่ก็อบอุ่นใจขึ้นมาตรงที่คุณลุงขับรถเบนซ์ได้ออกมาขอโทษและบอกว่าพร้อมที่จะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งหลังจากที่ตนมาให้แพทย์ตรวจแล้ว ก็จะเข้าไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน 


ด้านนางจินดา ย่าของนายที เปิดใจว่า เมื่อทางฝั่งคนขับรถเบนซ์ยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา และจะดูแลชดเชยให้ทั้งหมดนั้น ตนเองก็รู้สึกพอใจและยอมอภัยให้กับเขา แต่เรื่องของกฎหมายก็ว่ากันไปตามกระบวนการของความยุติธรรม โดยในการนำหลานชายตรวจครั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของเด็ก และจะได้นำไปประกอบกับสำนวนคดี ซึ่งผลจะออกมาอย่างไรนั้นก็จะได้นำไปส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กระทุ่มแบนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป


...

ส่วน นายมานะ นิ่มเนียม คู่กรณีที่ได้เดินทางมาพบกับนางจินดา และ นายที ในช่วงที่รอตรวจร่างกายนั้น ก็ได้มีการพูดคุยกันอย่างเข้าใจกัน และก็รู้สึกดีใจที่ทางครอบครัวผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ แต่ตนก็พร้อมที่จะว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม.