สวนสาธารณะในเมืองประจวบฯ ที่ดินของวัด หลายหน่วยงานเคยช่วยพัฒนา ปลูกต้นไม้ ทำเป็นสวนสวยงามแล้วปล่อยทิ้งร้าง กลายเป็นที่มั่วสุมของวัยรุ่น จนชาวบ้านทนไม่ไหวร่วมลงแรงรื้อทิ้งของเก่า ปลูกต้นไม้ใหม่ทดแทน ใช้เวลาว่างทำกันเอง...
วันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ นาคทั่ง อายุ 47 ปี แกนนำกลุ่มจิตอาสา “ทำดีเพื่อพ่อ” นำสมาชิกกลุ่มจิตอาสา ปรับสภาพสวนสาธารณะบริเวณปากคลองบางนางรม ที่มีความสกปรกเพราะขาดการดูแลจากหน่วยงานรัฐ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ หลายหน่วยงานเคยเข้ามาใช้พื้นที่แห่งนี้ปลูกต้นไม้ ก่อสร้างศาลา ก่อสร้างรั้ว และทำป้ายสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ริมถนนเลียบชายทะเล-สวนสน ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ แต่เมื่อปลูกต้นไม้แล้วไม่ได้มีการบำรุงรักษา ดูแลให้ต้นไม้เติบโต หรือจัดระเบียบสวนสาธารณะให้สวยงาม จึงทำให้ต้นไม้ส่วนใหญ่ตาย มีเพียงไม้ยืนต้นบางชนิดที่โตเองโดยไม่จำเป็นต้องดูแล มีป่าหญ้าขึ้นแซมไปทั่วบริเวณ ขยะพลาสติกและเศษขยะอินทรีย์ถูกทิ้งที่เป็นน่าอุจาดตา เป็นที่หลบมุมของกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามั่วสุมในบริเวณนี้ เนื่องจากพบขวดยาแก้ไอกว่า 100 ขวด ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมยา 4 คูณ 100 ประกอบกับสวนแห่งนี้อยู่ริมถนนและเป็นเส้นทางหลักผ่านไปยังแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม ที่สำคัญห่างจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเพียงไม่กี่ร้อยเมตร และใกล้กับศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้ กลุ่มจิตอาสาได้รวมตัวกันทำความสะอาด เก็บขยะ ถางหญ้าและถอนต้นไม้ที่แห้งเหี่ยวตาย โดยใช้เวลาในการปรับสภาพที่ดิน 2 สัปดาห์ โดยแต่ละคนสละเวลาหลังเลิกงานในช่วงเย็น และเสาร์อาทิตย์ ช่วงสัปดาห์แรกนี้เริ่มปลูกต้นไม้ที่ได้รับการบริจาคและซื้อเมล็ดพันธุ์ โดยจะปลูกพันธุ์ไม้ที่หลากหลายชนิด เช่น ไม้ไผ่รวก ราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ ตะเคียนทอง สักทอง พะยูง สะตอ ต้นเกตุ ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดาวเรือง ดาวกระจาย คุณนายตื่นสาย และในอนาคตจะทยอยปลูกต้นไม้ที่สามารถนำผลผลิตรับประทานได้ โดยจัดแบ่งพื้นที่การปลูกเป็นสัดส่วน คือ ส่วนต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ส่วนไม้พุ่มไม้ดอก และส่วนไม้ดอกไม้สวยงาม กิจกรรมทั้งหมดนี้ได้รับความยินยอมจาก พระราชสุทธิโมลี เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร พระอารามหลวง เจ้าของพื้นที่สวนสาธารณะขนาด 2 ไร่แห่งนี้
...
พร้อมกันนี้ สมาชิกกลุ่มจิตอาสาได้ลงชื่อแสดงความเป็นเจ้าของต้นไม้ โดยจะต้องรับผิดชอบต้นไม้แต่ละต้น ด้วยการรดน้ำ พรวนดิน ถางหญ้า จนกระทั่งต้นไม้เติบโต เนื่องจากที่พื้นที่สวนสาธารณะแห่งนี้ไม่มีน้ำประปา จึงต้องนำน้ำมาเอง ไม่ใช่เพียงแค่การปลูกต้นไม้ครั้งเดียวแล้วทิ้งไร้การดูแล และต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ร่วมบริจาคสิ่งของต่างๆ เพื่อทำให้สวนแห่งนี้ได้รับการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ด้วยแรงของชาวบ้าน เพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ที่ท่องเที่ยว และเป็นหน้าตาของจังหวัด.