ชาวบ้านน้ำพุ จ.ราชบุรี ฟ้องศาลปกครองให้ 5 หน่วยงานรัฐปิดโรงงานกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม ต้นเหตุของการทำให้ปนเปื้อนสารพิษในแหล่งน้ำ พร้อมเรียกค่าสินไหมทดแทน และให้บริษัททำการแก้ไขฟื้นฟูสภาพแวดล้อม...

จากกรณี ไทยรัฐ ได้นำเสนอข่าวชาวบ้านหมู่ 1 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางอากาศและสารพิษปนเปื้อนในแหล่งน้ำใต้ดินมากว่า 16 ปี จากการประกอบกิจการของโรงงาน 9 แห่งในพื้นที่เดียวกันของ บริษัท แว็กซ์กาเบจ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ม.8 ต.รางบัว อ.จอมบึง ซึ่งชาวบ้านได้มีการร้องเรียนกับหน่วยงานต่างๆ ให้เข้ามาแก้ไขปัญหามาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2544 ที่เริ่มได้รับผลกระทบ และมีผลรายงานการตรวจพิสูจน์แล้วหลายครั้งจากกรมควบคุมมลพิษ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 8 กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ยืนยันว่าโรงงานดังกล่าวเป็นต้นเหตุของการปนเปื้อนสารพิษในแหล่งน้ำ แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนเกิดการแพร่กระจายของสารพิษโลหะหนักลงไปสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ระบบน้ำบาดาลและน้ำผิวดิน (ลำห้วยน้ำพุ) ชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้วกว่า 3 หมู่บ้าน กรมวิชาการเกษตรแจ้งยกเลิกมาตรฐานการรับรองสินค้าเกษตร (GAP) พร้อมสั่งระงับห้ามใช้น้ำในลำห้วย ล่าสุดชาวบ้านได้ยื่นฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนและให้บริษัททำการแก้ไขฟื้นฟูสภาพแวดล้อม ต่อศาลแพ่ง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 11 เม.ย.60 ไปแล้วนั้น

ในวันนี้ 24 เม.ย.60 ว่าที่ร.ต.สมชาย อามีน นายกสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม (LEPA) นายศรีสุพรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนพร้อมชาวบ้าน ต.น้ำพุ จำนวน 49 ราย ได้เดินทางมายื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดยยื่นฟ้อง อุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรีผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรางบัว ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 และอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 โดยมีคำขอต่อศาลดังนี้

...

1. ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 บังคับใช้มาตรา 60 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 อย่างถาวร ต่อบริษัท แว็กซ์ กาเบจ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด และหรือโรงงานพิพาทของบริษัท แว็กซ์ กาเบจ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัดทั้ง 9 โรงโดยทันทีหรือภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด 2. ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องที่ 1 และหรือที่ 2 และหรือที่ 3 และหรือที่ 4 สั่งให้ บริษัท แว็กซ์ กาเบจ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ฟื้นฟูสภาพความเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ น้ำใต้ดิน น้ำในลำคลองหรือลำรางสาธารณะ ฯลฯ ที่เสียหายไปให้กลับมาดังเดิมตามหลักวิชาการโดยทันที หรือภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด 3. ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และหรือที่ 3 และหรือที่ 4 บังคับใช้มาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 อย่างเคร่งครัดต่อ บริษัท แว็กซ์ กาเบจ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด และหรือโรงงานพิพาทบริษัท แว็กซ์ กาเบจ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ทั้ง 9 โรงโดยทันทีหรือภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด และมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทั้ง 9 โรงของบริษัท แว็กซ์ กาเบจ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด 4. ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และหรือที่ 2 และหรือที่ 3 และหรือที่ 4 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือค่าชดเชยให้กับผู้ฟ้องคดีอันต้องเสียหายจากการขาดประโยชน์จากการใช้แหล่งน้ำ น้ำใต้ดิน การเจ็บป่วยทางสุขภาพร่างกายและจิตใจ และพืชผลทางการเกษตรเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องคดีเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระแล้วเสร็จ.