แม่เหยื่อยถูกรุมโทรมที่ร้านเกมใน อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เผยลูกสาวอาการเครียดจัดหวาดระแวง และทำร้ายตัวเองบ่อยครั้ง ขณะที่นายอำเภอเข้าช่วย ส่งคนดูแลความปลอดภัย ส่วน ตร.จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง

จากกรณีเพจดังได้โพสต์แฉคดี ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ถูก ด.ญ.บี (นามสมมติ) เพื่อนสนิท หลอกไปให้เพื่อนชายไปทำการการข่มขืนกระทำชำเรา ที่ร้านเกมแห่งหนึ่งใน อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 59 พร้อมกับกักขังหน่วยเหนี่ยวไว้อีกวันครึ่ง และโดนรุมโทรมจากชายประมาณ 10 คน และคดีดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (เพจดังแฉคดีรุมโทรมเด็ก 14 ปี ไม่คืบ)  

ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 60 นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล นายอำเภอด่านช้าง พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิวัติ มาตะราช ผกก.สภ.ด่านช้าง ทหารจาก มทบ.17 สุพรรณบุรี ได้เดินทางไปที่บ้านของเด็กหญิงผู้เสียหาย เพื่อเยี่ยมเยียน และสอบถามถึงรายละเอียดที่เกิดขึ้น

นายชุ้น ณัฐเดช เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้แสดงความห่วงใยคดีที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเพียงเด็กอายุ 14 ปี และคดีอยู่ในความสนใจของสังคม ซึ่งได้กำชับให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยหลังจากได้พบนางแมว (นามสมมติ) แม่ของ ด.ญ.เอ ได้เล่ารายละเอียดให้ฟังถึงความเป็นมาของคดี และเหตุการณ์ทั้งหมด โดยจะสั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดอย่างละเอียด เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายยังให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกัน และหากพบว่ามีการค้ามนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม นางแมว กังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากหลังเกิดเหตุมีโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่ และมีรถยนต์ขับเข้ามาวนเวียนและจอดหน้าบ้านจนผิดสังเกต จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากนี้จะทำรายการเสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อรับทราบด้วย

...

พ.ต.อ.นิวัติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคดีนี้ ตำรวจดำเนินการตามพยานหลักฐานและการสอบปากคำผู้เสียหาย ซึ่งพาดพิงถึงบุคคลใดก็ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกประเด็นที่มารดาของผู้เสียหายยังติดใจ เพื่อให้เกิดความกระจ่างและคลายข้อกังขาของสังคม

ส่วนผู้ถูกกล่าวหา หลังเกิดเหตุตำรวจได้ออกหมายและติดตามจับกุมมาได้แล้ว ก่อนนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมได้คัดค้านการประกันตัว แต่ผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นหลักทรัพย์และได้รับการประกันตัวในชั้นศาล

นางแมว กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ ช่วงเช้าลูกไปทำกิจกรรมที่โรงเรียน จากนั้นได้เดินทางกลับมาที่บ้าน และเล่าให้ฟังว่าชนะประกวดรางวัลงานฝีมือ ครูจะพาไปเที่ยวทะเลที่กระบี่ ต่อมาช่วงเย็นได้ขอไปทำกิจกรรมแปรอักษร โดยมีเพื่อนสนิทมารับที่บ้าน แต่ขี่รถไปส่งที่หน้าปากซอย ก่อนจะมีรถอีกคันมารับแล้วพาไปที่ร้านเกม

ทั้งนี้ ช่วงประมาณทุ่มเศษ ตนได้โทรสอบถามลูกว่าถึงที่แปรอักษรหรือยัง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ออกติดตามหาตามบ้านเพื่อน แต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งคืนวันที่ 13 พ.ย. เพื่อนของลูกมาหาที่บ้านพร้อมด้วยโทรศัพท์ของลูกสาว โดยบอกว่าลูกตนถูกนายไก่พาตัวออกไปจากร้านเกม ไปที่ไหนไม่ทราบ ตนจึงได้เข้าแจ้งความ สภ.ด่านช้าง ตำรวจได้ออกติดตามพร้อมนำตัวนายไก่มา

จากนั้นตำรวจก็ได้นำตัวลูกสาวตนมาที่โรงพัก โดยระบุว่าพบตัวลูกที่โต๊ะสนุ๊กแห่งหนึ่งในตัวตลาดด่านช้าง โดยสภาพของลูกมีเลือดไหลออกมาไม่หยุดจากบริเวณหว่างขาจนถึงเท้า ซึ่งตนตกใจมาก จึงได้ให้เพื่อนลูกไปซื้อผ้าอนามัยมา โดยลูกบอกว่านายไก่พาไปข่มขืน ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้มีการชี้ตัวยืนยัน แต่ตำรวจที่นำตัวนายไก่มายืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากนายไก่อยู่กับตนเองตลอดเวลา

จากนั้น ลูกสาวได้ถูกนำตัวไปส่งตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลด่านช้าง โดยแพทย์ระบุว่าผลตรวจร่างกายพบว่า มีร่องรอยการถูกกระทำชำเรา ต่อมาได้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1 อาทิตย์ ก่อนที่จะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราชอีก 2 อาทิตย์ และเข้าฟื้นฟูสภาพจิตใจที่บ้านพักเด็กและครอบครัวสุพรรณบุรีจนถึงปัจจุบัน

นางแมว กล่าวต่อว่า ระหว่างที่ลูกสาวอยู่บ้านพักเด็ก เจ้าหน้าที่ได้มาบอกกับตนว่าลูกสาวถูกกระทำหนักมาก ตนจึงได้สอบถามลูกอีกครั้ง และให้พูดความจริงออกมา ลูกก็บอกกับตนว่ากลุ่มเพื่อนของนายไก่กระทำชำเราในลักษณะรุมโทรมที่ร้านเกม โดยถูกล็อกประตูขังจากด้านนอก ซึ่งก่อนหน้านี้ยังถูกคนในกลุ่มของนายไก่บังคับให้ลูกสาวตนไปขายบริการให้กับชายสูงอายุคนหนึ่ง โดยตนได้ทราบข้อมูลจากเพื่อนของลูกสาวว่า กลุ่มของผู้ต้องหาเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และมีการค้ามนุษย์โดยมีร้านเกมเป็นจุดรวมตัว และก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง

“หัวอกของคนเป็นแม่รู้สึกสงสารลูกจับใจ เพราะหลังเกิดเหตุ ลูกสาวมีอาการหวาดระแวง และทำร้ายตัวเองอยู่บ่อยครั้ง และต้องใช้ยานอนหลับ อยากร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาว และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนที่กระทำกับลูกสาวตนมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด เพราะไม่อยากเห็นเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของใครอีก”