กองกำลังบูรพา เปิดหลักฐานวิถีกระสุนกัมพูชา มุ่งสังหารทหารไทย ต่อหน้าคณะ AOT พบทหารบ้านกัมพูชาแอบส่องระหว่างตรวจพื้นที่ ชี้สื่อเขมรสร้างเฟคนิวส์สวนทางวิทยาศาสตร์ ยันปักหมุดชั่วคราว 17 พ.ย. ดำเนินการตามกำหนด

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ที่บริเวณจุดตรวจร่วมไทย–กัมพูชา (จต.ส.34) ถนนศรีเพ็ญ ช่วงหลักเขตแดนที่ 42-43 บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 12 (ฉก.12) กองกำลังบูรพา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังร่วมลงพื้นที่กับคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ซึ่งเข้าตรวจสอบบังเกอร์ทหารไทย ที่เคยถูกยิงจากฝั่งกัมพูชา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา 


โชว์หลักฐานวิทยาศาสตร์ชัดเจน – วิถีกระสุนเขมร “หวังสังหาร”

พ.อ.ชัยณรงค์ เปิดเผยว่า ฝ่ายไทยได้ชี้แจงให้คณะ AOT เห็น “วิถีกระสุน” ที่ฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามาอย่างเป็นรูปธรรม โดยสามารถตรวจสอบได้ด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ทั้งมุมยิง ทิศทางการเจาะของหัวกระสุน รวมถึงสภาพพื้นที่รอบบังเกอร์ 

...

"จากวิถีกระสุนที่เข้ามาอย่างชัดเจน เรามั่นใจว่าตั้งใจเล็งไปที่กำลังพลของไทย หากวันนั้นไม่มีบังเกอร์ป้องกัน ทหารไทยอาจเสียชีวิตได้แน่นอน" ผบ.ฉก.12 กล่าว 

ภายในบังเกอร์เจ้าหน้าที่พบรอยกระสุนชัดเจนจำนวน 2 รอย ซึ่งยืนยันว่าเป็นกระสุนขนาด 5.56 มม. และยังพบรอยกระสุนกระจายบริเวณต้นไม้ใกล้เคียงอีกประมาณ 8 รอย อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการ


โต้ข่าวสื่อกัมพูชา บิดเบือนเรื่องพลเรือนเจ็บ-ตาย

พ.อ.ชัยณรงค์ กล่าวถึงกระแสข่าวจากสื่อกัมพูชาที่อ้างว่า มีพลเรือนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการยิงตอบโต้ของฝ่ายไทยว่า เป็นข้อมูลที่ถูกบิดเบือนอย่างชัดเจน โดยจากการตรวจสอบพื้นที่จริง “ไม่มีบ้านเรือนพลเรือนอยู่ในทิศทางที่ทหารไทยยิงโต้กลับ” ซึ่งเป็นพื้นที่ป่ารก ไม่มีประชาชนอาศัยอยู่ ขอให้พี่น้องประชาชนและสื่อไทยใช้วิจารณญาณ และพิจารณาจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เราได้นำเสนอในวันนี้ ทุกอย่างตรวจสอบได้ ไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอย 


พบ "ทหารบ้านกัมพูชา" แอบส่องขณะลงพื้นที่

ทั้งนี้ ขณะคณะ AOT และสื่อมวลชนตรวจสอบบังเกอร์ดังกล่าว ยังพบว่ามีบุคคลแต่งกายคล้ายพลเรือน แต่มีลักษณะเป็น “ทหารบ้านกัมพูชา” โผล่ออกมาสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ โดยพบว่ามีอาวุธแต่เก็บซ่อนไว้ ซึ่งสอดคล้องกับการข่าวของฝ่ายไทย

นอกจากนี้ พ.อ.ชัยณรงค์ ระบุว่า ฝั่งกัมพูชาได้อพยพพลเรือนออกจากพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน ทำให้ขณะนี้พื้นที่ประชิดแนวชายแดนฝั่งกัมพูชาแทบไม่มีพลเรือนหลงเหลืออยู่ ยืนยันเดินหน้าปักหมุดชั่วคราว 17 พ.ย. ตามแผน สำหรับการปักหมุดชั่วคราวตามแนวเขตแดนตั้งแต่หลักเขตที่ 42 – 47 ครอบคลุมพื้นที่หมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง

 พ.อ.ชัยณรงค์ยืนยันว่า จะดำเนินการตามกำหนดเดิมในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 โดยไม่มีการเลื่อนหรือปรับเปลี่ยนแผน 

“กองกำลังบูรพาพร้อมปฏิบัติภารกิจตามขั้นตอนทุกประการ การปักหมุดชั่วคราวถือเป็นกระบวนการร่วมกันเพื่อความชัดเจนและลดความเข้าใจผิดของทั้งสองฝ่าย” ผบ.ฉก.12 กล่าวย้ำ