"ปวีณา" ประสานเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ เด็ก 7 ชีวิต อาศัยอยู่กับแม่ติดยาบ้างอมแงม ลูกสาววัย 17 ปี เผยต้องเป็นคนทำงานหาเงิน ได้มาวันละ 300 แม่ขอ 200 บาท เพื่อนำไปซื้อยา สงสารน้องอยากให้มีสภาพชีวิตที่ดี และได้เรียนหนังสือ

วันที่ 7 พ.ย. 68 มูลนิธิปวีณาฯ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ให้เข้าช่วยเหลือเด็กน้อย 7 ชีวิต ซึ่งอาศัยอยู่กับแม่ที่ติดยาบ้า และติดการพนันออนไลน์ ปั่นสลอต อีกทั้งยังอ้างว่าแม่ให้ลูกเป็นคนเดินยา 

โดย นางปวีณา เผยว่า พลเมืองดีให้ข้อมูลขอความช่วยเหลือ แม่มีลูก 9 คน คนโต แยกออกไปมีครอบครัวเหลือ คนที่ 3 อายุ 15 ปีพาแฟนเข้ามาบ้านไม่ได้ทำงานอะไร เหลือน้องๆ อีก 6 คน อายุ 7-11 ปี คนสุดท้องอายุ 7 ปี พิการทางสมอง ลูกสาวคนที่ 2 อายุ 17 ปี สู้ชีวิตดิ้นรนทำงานรับจ้างหาเงินได้วันละ 300 บาท ต้องเลี้ยงทั้งบ้าน 10 ชีวิต ยาย แม่ และพี่น้อง ซ้ำยังถูกแม่บังคับข่มขู่เอาเงินไปทุกวัน วันละ 200 บาท แถมแม่ติดเงินค่ายาบ้ากับเอเย่นต์ถูกตามทวงต้องหาเงินไปจ่าย ถ้าอิดออดจะถูกทุบตีทำร้ายจึงต้องจำยอม ทุกวันทำงาน ช่วงพักกลางวันลูกสาวคนที่ 2 ต้องหาข้าวไปส่งทำอาหาร ต้มโครงไก่ให้น้องกินประทังชีวิต และดูแลน้องชายคนสุดท้าย 7 ขวบที่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ชีวิตเด็กๆ ทั้ง 7 คน น่าสงสารมาก ตกอยู่ในอันตราย

จากนั้น นางปวีณา จึงประสาน พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ นางสาวสุภชา พรหมศร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี นางสาวอารีย์รัตน์ นฤดมพงศ์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ สนง.พมจ.ปทุมธานี ประชุมที่มูลนิธิปวีณาฯ ก่อนร่วมกันลงพื้นที่ทันที เพื่อให้การช่วยเหลือเด็กๆ ทั้ง 7 คน

เมื่อไปถึงพบว่า สภาพบ้านหลังดังกล่าว เป็นเพิงพักริมถนน ใช้ผ้าใบและสังกะสี มาทำเป็นฝาผนัง สภาพทรุดโทรม รก และมีกลิ่นเหม็น ห้องน้ำไม่มีประตู ใช้เพียงผ้าคลุมกั้นไว้ สภาพบ้านความเป็นอยู่ไม่มีความปลอดภัย ขณะที่เด็กๆ ออกไปวิ่งเล่นกันตามถนนเสี่ยงอันตรายรถชน ส่วน ด.ช. 7 ขวบ น้องคนสุดท้องที่พิการ นอนอยู่บนพื้นที่มีผ้าปูรอง ปัสสาวะ อุจจาระอยู่บนที่นอน

...


ตรวจสอบภายในบ้านพบอุปกรณ์การเสพยาบ้าของแม่ที่เก็บไว้ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวแม่และยายไปที่สภ.ธัญบุรี เพื่อทำการตรวจหาสารเสพติด พบว่าแม่ฉี่สีม่วงมีสารเสพติดในร่างกาย โดยแม่รับสารภาพว่า เสพยาบ้าจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดีข้อหา เสพยาบ้า ก่อนนำตัวส่งเข้ารับการบำบัดยาเสพติดต่อไป

ส่วนเด็ก ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ จะส่งเข้าโรงเรียนประจำเพื่อเข้าเรียนหนังสือ โดยขั้นตอนแรก กระทรวงพัฒนาสังคมฯ จะเข้ามาดูแลก่อน เด็กทุกคนจะได้รับการประเมินทั้งร่างกายและจิตใจ ทั้งนี้ ตำรวจจะต้องขยายผลจับกุมขบวนการเอเย่นต์ส่งยา ที่นับวันจะใช้เด็กเป็นเครื่องมือทำมาหากิน

น.ส.เอม วัย 17 ปี เผยว่า เรียนจบแค่ ป.5 เพราะต้องออกจากโรงเรียนมาหางานทำ เพื่อเลี้ยงตัวเอง น้อง และคนในบ้านตั้งแต่อายุ 14 ทำงานได้เงินเท่าไร แม่เอาเงินไปหมด ถ้าไม่ให้ก็จะถูกทุบตี ทำร้ายร่างกาย โดยตัวเองไปทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาด ช่วงพักกลางวันก็จะขอหัวหน้าขี่รถจักรยานยนต์กลับมาหาข้าวให้น้องๆ และเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้องคนเล็กที่พิการ บางครั้งตัวเองก็ไม่ได้กินข้าว ขอแค่ให้น้องๆ ไม่ต้องอด ก่อนจะกลับไปทำงานต่อในช่วงบ่าย

น.ส.เอม ยังบอกด้วยว่า ตัวเองเห็นแม่เสพยาบ้ามาตั้งแต่จำความได้ ส่วนพ่อถูกจับยาเสพติด ซึ่งพ่อบอกว่า “จำไว้ อย่ามาเป็นแบบพ่อ” ตนจึงไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตนไม่ชอบเห็นแม่เสพยา เวลาที่แม่ใช้ให้ไปเอายาเสพติด ตนไม่ยอมก็จะถูกทำร้าย แต่ตนยืนยันว่าไม่ทำเด็ดขาด ตนทำงานได้เงินวันละ 300 แม่ก็ขู่ว่าต้องให้เขาวันละ 200 บาท เพื่อเอาไปซื้อยา แม่เคยติดเงินค่ายากับเอเย่นต์ 5,000 บาท เขาก็บังคับให้ตนหาเงินไปจ่าย ก่อนหน้านี้แม่ไล่ตนออกจากบ้าน จนต้องไปอาศัยอยู่กับเพื่อน แต่ตนห่วงน้องๆ ทั้ง 7 คน ช่วงพักกลางวันจึงต้องกลับมาหาข้าวให้น้องกิน เช็ดตัวให้น้องที่พิการ ไม่อยากให้น้องอยู่ในสภาพแบบนี้ อยากให้ได้เรียนหนังสือ และอยากให้น้องที่พิการ ได้รับการดูแลให้มีสภาพชีวิตที่ดีกว่านี้

ทั้งนี้ นางปวีณา ได้ขอบคุณพลเมืองดีที่มาแจ้งให้ช่วยเหลือ และขอบคุณทุกหน่วยงานที่มาร่วมบูรณาการร่วมกัน และขอประชาสัมพันธ์ว่าหากใครพบเห็นเด็กเข้าไปพัวพันยาเสพติด รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือมูลนิธิปวีณาฯ ได้ทันที ที่เบอร์โทร 1134, 062 560 1636, 081 8901355 และ 098 478 8991