อ่วมต่อเนื่อง ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา กระสอบทรายพัง น้ำทะลักท่วมบ้าน 2,000 ครัวเรือน จมบาดาลรอบ 3 ขณะที่กู้ภัยเร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปอยู่ที่ปลอดภัย
วันที่ 6 พ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางกรมชลประทานได้มีการแจ้งการปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม ในอัตรา 2,600 ลบ.ม./วินาที ไปเป็น 2,700 ลบ.ม./วินาที เริ่มเวลา 22.00 น. วันที่ 5 พ.ย. ไปจนถึงช่วงเวลา 04.00 น. ของวันที่ 6 พ.ย. 2568
ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมานี้ ถือเป็นการเร่งเพิ่มการระบายรายวันเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน และน้ำท่ามีการปรับเพิ่มการระบายรายวัน ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อวันประมาณ 20-30 ซม. เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และยกของขึ้นที่สูง อพยพไปอยู่ที่ปลอดภัยโดยด่วน
ล่าสุดที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,993 ลบ.ม./วินาที ที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.08 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 16.31 เมตร/รทก. ห่างจากตลิ่ง 3 ซม.
...
ส่วนสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ได้เข้าสู่ภาวะวิกฤตสูงสุดอีกครั้ง คันดินและแนวกระสอบทรายแตก น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็วและแรง ส่งผลให้ ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ถูกน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี ถือว่าหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ทางด้านเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท เร่งขนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นชั้น 2 ของบ้านเป็นครั้งที่ 3 เพื่อให้ผู้ป่วยอยู่ในที่ปลอดภัย และสำหรับบ้านชั้นเดียวได้นำส่งโรงพยาบาลสรรพยาเป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลาย
นายภิรมย์ โถสุวรรณ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลโพนางดำออก เผยว่า ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้คันกั้นน้ำที่เป็นกระสอบทรายบริเวณหมู่ 7 ไม่สามารถรองรับได้ และพังทลายลง ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7 อย่างรวดเร็ว ทำให้พื้นที่ตำบลโพนางดำออกถูกน้ำท่วมเต็มทั้งพื้นที่ทุกหมู่บ้าน (หมู่ 1-7) ยกเว้นหมู่ 8 เพียงหมู่เดียว รวมกว่า 2,000 ครัวเรือน ต้องอพยพขึ้นไปพักอาศัยริมถนนคันคลองมหาราชอีกเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยชาวบ้านทำใจอย่างเดียวเท่านั้น ชาวบ้านบอกว่าจะให้น้ำขึ้นเท่าไรก็ปล่อยมาได้เลยเต็มที่.