2 ฮีโร่ในชีวิตจริง กระโดดช่วยรถจมน้ำ ทุบกระจกรถดึงเด็ก 6 ขวบติดภายในออกมา ก่อนรีบนำขึ้นฝั่ง มีพยาบาล รพ.สต. มาช่วยปั๊มหัวใจ จนมีชีพจรกลับมา พร้อมประสานเร่งนำส่ง รพ. จนรอดชีวิต

จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ "องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี" โพสต์ภาพพร้อมข้อความชื่นชมฮีโรตัวจริง พยาบาลช่วยปั๊มหัวใจเด็กหญิง ที่ประสบเหตุรถกระบะตกบ่อน้ำ โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า นางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ขอแสดงความชื่นชมและยกย่องในความกล้าหาญและความมีจิตวิญญาณของผู้ช่วยเหลืออย่างแท้จริงของนางอรยา พรหมมาศ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รักษาราชการแทน ผอ. รพ.สต.คู้ลำพัน

โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. หลังเสร็จภารกิจเยี่ยมผู้ป่วยที่ ต.คู้ลำพัน อ.ศรีมโหสถ พยาบาลอรยาได้พบเหตุการณ์ไม่คาดฝัน รถกระบะตกบ่อน้ำและมีเด็กหญิง อายุ 6 ขวบ จมน้ำ หมดสติ และหัวใจหยุดเต้น ด้วยความรู้และทักษะทางการแพทย์ พยาบาลอรยาได้ปั๊มหัวใจ (CPR) จนสามารถกู้ชีพและทำให้หัวใจของน้องกลับมาเต้นได้สำเร็จ ก่อนจะประสานส่ง รพ.ศรีมโหสถ จนเด็กปลอดภัย

ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น วันที่ 21 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลคู้ลำพัน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลคู้ลำพัน อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี โดยได้พบกับนางอรยา พรมมาศ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รักษาราชการแทน ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลคู้ลำพัน และนายทองพิมพ์ ม่วงพรม อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 สองฮีโร่ตัวจริง ที่สามารถยื้อชีวิตเด็กหญิงวัย 6 ขวบจนรอดบ่วงมัจจุราชมาได้

ทั้งนี้ นางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยทีมงานได้เดินทางมาให้กำลังใจทางด้านสองฮีโร่ที่ รพ.สต. ดังกล่าวด้วย พร้อมทั้งกล่าวว่าการกระทำของพยาบาลอรยา คือแบบอย่างของบุคลากรสาธารณสุขที่ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกเวลาราชการ จึงอยากจะส่งกำลังใจให้พี่อรยาปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้ตลอดไป

...

จากการสอบถาม นางอรยา ให้ข้อมูลว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าได้มีชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านช่วยกันปั๊มหัวใจบ้างแล้ว จากการตรวจสอบพบว่าเด็กไม่มีชีพจร อีกทั้งถ้าเป็นชีพจรเด็กจะคลำยาก ซึ่งเราประเมิน และปั๊มหัวใจอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายเด็กเริ่มกลับมามีชีพจร และได้ให้ทีมงานประสานรถฉุกเฉิน แต่เนื่องจากกลัวไม่ทัน จึงได้ทำขึ้นรถของกู้ภัยไปก่อน โดยตลอดเส้นทางตนก็ได้มีการประสานงานกับรถฉุกเฉินของ รพ.ศรีมโหสถ ให้มีการเตรียมพร้อม

ล่าสุดน้องมีการตอบสนองแล้ว ทางแพทย์โรงพยาบาลศรีมโหสถ ได้มีการช่วยเหลือพ้นขีดอันตราย ก่อนส่งตัวน้องไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ตนมีแนวคิดว่าจะทำการอบรมชาวบ้านในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เผื่อเจอเหตุแบบนี้จะได้มีการช่วยเหลือได้ทันท่วงที ก่อนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมาถึง

ด้านนายทองพิมพ์ ม่วงพรม อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ได้พาไปดูจุดเกิดเหตุ ซึ่งพบว่าเป็นถนนชุมชน รถวิ่งสวนกัน 2 เลน จุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณถนนริมบ่อปลาขนาดใหญ่ พบร่องรอยของรถเสียหลักลงไปบริเวณบ่อปลา ซึ่งมีเสาปูนและลวดหนามขึงอยู่

นายทองพิมพ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุ มีชาวบ้านมาแจ้งว่า มีรถยนต์เสียหลักลงไปในน้ำ พอมาถึงเห็นสภาพรถจมอยู่ภายในน้ำ จากนั้นได้ลงไปช่วยเหลือ โดยมีการเคาะบริเวณหลังคารถ จากนั้นมีเสียงตอบรับอยู่ภายในรถ จึงตั้งสติคิดว่าจะช่วยเหลือคนภายในรถอย่างไร ระหว่างนั้นมีรถไถของชาวบ้านอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ จึงได้ไปเอามีดมาทำการทุบกระจก หลังจากกระจกด้านหน้าแตก พบว่าคนอยู่ด้านหลังแค็บ จึงมาทุบกระจกหลัง ก่อนดึงเอาผู้ที่ประสบเหตุออกมา

โดยน้องผู้หญิงมีอาการหมดสติ ตัวอ่อน จึงรีบพาขึ้นฝั่ง และได้ชาวบ้านช่วยกันปั๊มหัวใจ กระทั่งเจ้าหน้าที่ รพ.สต. เข้ามาที่เกิดเหตุ จึงมอบให้เจ้าหน้าที่ดูแล ซึ่งชาวบ้านเอง ได้รับการอบรมเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากหน่วยงานทุกปี เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

ทั้งนี้ มีคลิปที่ชาวบ้านถ่ายไว้ได้ขณะที่รถเกิดอุบัติเหตุ โดย นายทองพิมพ์ พร้อมด้วยพลเมืองดีอีก 1 ราย พากันลงไปในน้ำ และพยายามทุบกระจกรถ โดยใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที จึงสามารถนำตัวเด็กและพ่อออกมาจากรถได้