ทภ.1 ยืนยันพื้นที่ของไทย ลุยเก็บกู้ระเบิด ที่บ้าน "หนองหญ้าแก้ว" เคลียร์ปลอดภัยแล้วเกือบ 40,000 ตารางเมตร เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ของชาวบ้านชายแดน

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 68 กองทัพภาคที่ 1 และกองกำลังบูรพา โดยหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 ได้เดินหน้าปฏิบัติการสำคัญเพื่อความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดน แม้จะมีเสียงคัดค้านจากฝ่ายกัมพูชา โดยจัดชุดตรวจค้นวัตถุระเบิดถึง 4 ชุด พร้อมอุปกรณ์และกำลังสนับสนุนด้วย รถถากถางหุ้มเกราะ D5 เข้าดำเนินการตรวจสอบและเก็บกู้ระเบิดที่คาดว่าตกค้างในพื้นที่ บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว

รายงานระบุว่า การตัดสินใจเดินหน้าภารกิจครั้งนี้ เป็นการเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเคลียร์พื้นที่เสี่ยงภัยให้มีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับเข้าใช้พื้นที่ทำการเกษตรและดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างอุ่นใจ โดยย้ำว่าพื้นที่ดำเนินการเป็นพื้นที่ปฏิบัติการของฝ่ายไทย


ปฏิบัติการครั้งนี้ประสบความสำเร็จในการเพิ่มพื้นที่ปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยสามารถถางพื้นที่ปลอดภัยจากวัตถุระเบิดที่ตกค้างได้เพิ่มเติมอีก 38,256 ตารางเมตร

...

การใช้รถถากถางหุ้มเกราะ D5 ในภารกิจนี้ช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีความเสี่ยงสูง และจำเป็นต้องใช้เครื่องมือหนักเข้าจัดการเพื่อป้องกันอันตรายจากวัตถุระเบิดที่ตกค้างมาเป็นเวลานาน

การปฏิบัติการของ ทภ.1 ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการรักษาอธิปไตยของชาติ พร้อมกับการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดนเป็นสำคัญ

ซึ่งในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้มีประชาชนและทหารกัมพูชาบางส่วนได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพการทำงานของทหารไทยด้วย



ต่อมากองทัพภาคที่ 1 ได้สรุปสถานการณ์ประจำวันที่ 10 ต.ค.68 เมื่อเวลา 14.00 น. ในพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง ฝ่ายไทยมีมวลชนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งสื่อมวลชน ประมาณ 200 คน รวมตัวแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการปกป้องอธิปไตยของไทย  ส่วนในพื้นที่ฝั่งตรงข้าม ฝ่ายกัมพูชาเริ่มมีมวลชนทะยอยรวมตัวเข้าพื้นที่ การปฏิบัติการที่สำคัญ หน่วยได้จัดกำลังระวังป้องกันในพื้นที่ตอนใน 

ส่วนในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง ฝ่ายไทยมีมวลชนจำนวนหนึ่งเข้ามาในพื้นที่ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญ ในพื้นที่ฝั่งตรงข้าม ฝ่ายกัมพูชาพบความเคลื่อนไหวประชาชนและมวลชน/ผู้สื่อข่าว ประมาณ 100 คน บริเวณรั้วลวดหนามและกระจายรอบหมู่บ้านเปรยจัน โดยมีทหาร ตำรวจ และส่วนราชการ คอยอำนวยความสะดวกและการจัดระเบียบ สถานการณ์ทั่วไปปกติ 

การปฏิบัติการที่สำคัญ หน่วยได้จัดกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.) 1 กองร้อย เข้าควบคุมและรักษาความปลอดภัยพื้นที่ เเละจัดชุดตรวจค้นวัตถุระเบิด 4 ชุด พร้อมอุปกรณ์ตรวจค้นเเละรถถากถางหุ้มเกราะ D5 ดำเนินการตรวจสอบค้นหาวัตถุระเบิดที่คาดว่าตกค้างในพื้นที่ปฏิบัติการฝ่ายไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยจะสามารถได้พื้นที่ปลอดภัย จำนวน 38,256 ตารางเมตร  


นอกจากนี้ คณะผู้สังเกตการณ์ (IOT) ประจำราชอาณาจักรไทย เดินทางมาสังเกตการณ์ความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ตามแนวชายแดนของ จ.สระแก้ว รับทราบสถานการณ์ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดย กองทัพภาคที่ 1 ได้ชี้แจงให้คณะ IOT รับทราบ ถึงการขั้นตอนดำเนินการจัดการพื้นที่ที่ชาวกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในอธิปไตยของไทย เป็นไปตามมาตรการบังคับใช้กฎหมาย ภายใต้กรอบกฎหมายไทยและหลักสากล   

...

ต่อกรณีฝ่ายกัมพูชา โดยกองพลทหารราบที่ 51 แจ้งให้ฝ่ายไทยระงับการเก็บกู้ระเบิดในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อ้างละเมิดของตกลง GBC นั้น กองทัพภาคที่ 1 ขอยืนยันว่าฝ่ายไทยดำเนินการดังกล่าว ในพื้นที่อธิปไตยของไทยไม่ใช่พื้นที่อ้างสิทธิ์  กองทัพภาคที่ 1 โดย กกล.บูรพา กองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.) และฝ่ายปกครอง ยังคงตรึงกำลังดูแลความเรียบร้อยของทั้ง 2 พื้นที่ สถานการณ์ภาพรวมยังไม่มีเหตุการณ์ใช้กำลังเข้าระงับเหตุ กองทัพภาคที่ 1 ยืนยันจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดในห้วงวันเวลาที่ได้เปรียบ 

ทั้งนี้ พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้มาประจำในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว เพื่อติดตามการปฏิบัติของหน่วยและการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด


...