ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ต่ำกว่าตลิ่งไม่ถึงเมตร เริ่มซึมตามกระสอบทราย ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน นายกเล็กยัน สู้ถึง 2,500 ลบ.ม./วินาที ขอเขื่อนฯ ทยอยปล่อยน้ำ จะได้มีเวลาเตรียมรับมือ
วันที่ 30 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุไต้ฝุ่น "บัวลอย" ที่พาดผ่านประเทศไทย ทำให้เกิดฝนตกหนักและอุทกภัย โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นรายชั่วโมง ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาต้องเร่งพร่องน้ำ โดยคงอัตราการระบายไว้ที่ 2,300 ลบ.ม./วินาที เป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนที่ไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่องและฝนที่ตกในระยะนี้ และรองรับมวลน้ำก้อนมหึมาจากภาคเหนือ เพื่อบรรเทาทุกข์ประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
สภาพน้ำท่าล่าสุด ที่สถานี C.2 จ.นครสวรรค์ วัดปริมาณน้ำไหลผ่านได้ 2,633 ลบ.ม./วินาที เพิ่มต่อเนื่อง ขณะที่สถานี C.13 ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำ 2,300 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.47 ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง 0.87 เมตร ส่วนระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 15.83 ม.รทก. ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นรายวัน
...
ขณะที่ชาวบ้าน ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่ก่อกำแพงกระสอบทรายสู้ภัยน้ำท่วม ต้องเผชิญกับน้ำเริ่มซึมตามแนวกั้น เอ่อเข้าบ้านเรือนประชาชนหลายหลังคาเรือน ด้านเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลหาดอาษา และชาวบ้านเร่งช่วยกันอุดรอยรั่วและเสริมแนวกระสอบทรายเพราะมีแนวโน้มว่าจะระบายเพิ่ม หากน้ำเหนือยังมีมากเช่นนี้
นางชัณณ์ญาช์ สุภาวิตา นายกเทศมนตรีตำบลหาดอาษา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระดับน้ำในพื้นที่ต่ำสุดในชุมชนประมาณ 1.3 เมตร ทางเทศบาลกำลังเสริมกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำขึ้นมาทั้ง 7 หมู่บ้าน สูงประมาณ 1.5 เมตร ถ้าทางเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำไวมากเช่นนี้จะตั้งรับกันไม่ทันและจะเกิดความเดือดร้อนในวงกว้าง อยากให้ค่อยๆ ปล่อย จะได้มีเวลารับมือ ปริมาณน้ำที่ปล่อยมาขณะนี้ก็ถึงจุดวิกฤติของตำบลหาดอาษาแล้ว แต่ยังสู้กันอยู่ และมั่นใจว่าจะสู้ได้ถึง 2,500 ลบ.ม./วินาที