"สระแก้ว" ยื่น 4 ข้อเรียกร้องถึงกัมพูชา หลังชาวบ้านบุกรุกบ้านหนองหญ้าแก้ว แต่ทหารไม่ห้าม ขณะที่เมื่อคืนแก๊งแครอทกัมพูชา นั่งทำคอนเทนต์ ไม่กลับวัด

วันที่ 19 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดสระแก้ว ออกแถลงการณ์รายงานสถานการณ์ โดยระบุว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ประชาชนกัมพูชารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยวางเป็นแนวป้องกันตนเอง บริเวณพื้นพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันอังคารที่ 16 และวันพุธที่ 17 กันยายน 2568 จังหวัดสระแก้วขอประท้วงอย่างเป็นทางการต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายและไม่เป็นบินมิตรของพลเรือนกัมพูชา และการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาละเลยไม่ห้ามปรามการกระทำดังกล่าว โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. เหตุการณ์เมื่อวันอังคารที่ 16 กันยายน 2568 พลเรือนกัมพูชาได้เข้ามาในเขตแดนไทย พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่นอกเขตพิพาทและเป็นอธิบไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยได้พยายามรื้อถอนลวดหนามที่ฝ่ายไทยวางเป็นแนวป้องกันตนเอง พร้อมใช้ไม้เป็นอาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ไทย และลักทรัพย์สินของทางราชการไทยไป ทั้งนี้ มีทหารกัมพูชาอยู่ในพื้นที่แต่ไม่ห้ามปรามพลเมืองของตน

2. เหตุการณ์เมื่อวันพุธที่ 17 กันยายน 2568 พลเรือนกัมพูชาจำนวนราว 200 คน ได้บุกรุกเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วอีกครั้ง และรื้อถอนลวดหนามของผ้ายไทย พร้อมทั้งใช้ไม้ ท่อเหล็ก และก้อนหินทำร้ายเจ้าหน้าที่ไทยที่เข้าไปห้ามปราม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บหลายราย ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิในการป้องกันตัวตามความเหมาะสม แม้จะได้แจ้งและขอให้ทหารกัมพูชาห้ามปรามประชาชนของตน แต่ก็มีการดำเนินการใด ๆ

3. การกระทำของผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย และคณะ IOT ด้านกัมพูชา ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 19.30 น. นายอุม เรียไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ได้นำคณะ IOT ฝ่ายกัมพูชา เข้ามาในพื้นที่อธิปไตยของไทยที่บ้านหนองหญ้าแก้ว โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้าให้ฝ่ายไทยทราบ การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดเงื่อนไขการปฏิบัติงานของ IOT ซึ่งกำหนดชัดเจนว่า แต่ละฝ่ายต้องไม่เข้าสู่ดินแดนของประเทศคู่กรณี อีกทั้งยังเป็นการแทรกแซงปัญหาชายแดนที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกลไก JBC และ GBC อยู่แล้ว

...

จังหวัดสระแก้ว เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทยอย่างร้ายแรง การฝ่าฝืนกฎหมายอาญาของไทย การไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงและกลไกทวิภาคี รวมถึงการละเมิดวัตถุประสงค์ของ IOT จังหวัดสระแก้ว จึงขอเรียกร้องให้กัมพูชาดำเนินการ ดังนี้

1. ยุติการกระทำที่ผิดกฎหมายของพลเรือนกัมพูชาในดินแดนไทยทันที
2. ให้ทหารกัมพูชา (ภูมิภาคทหารที่ 5 ) ควบคุมและห้ามปรามพลเมืองของตนมิให้ละเมิดกฎหมายไทยอีก
3. งดเว้นการส่งเจ้าหน้าที่หรือคณะ IOT เข้ามาในดินแดนไทยโดยพลการ
4. เคารพกลโก JBC และ GBC ในการแก้ไขปัญทาชายแดนตามที่ได้ตกลงร่วมกัน

ทั้งนี้ จังหวัดสระแก้วขอสงวนสิทธิ์ในการป้องกันอธิบไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยยังคงยืนยันเจตนารมณ์ที่จะธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และความเป็นเอกภาพของอาเซียน


ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 19 ก.ย. 68 กองกำลังบูรพาได้จัดกำลังบินตรวจการณ์ทางอากาศ สำรวจพื้นที่แนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว เพื่อประเมินสถานการณ์และติดตามความเคลื่อนไหวของฝั่งกัมพูชาอย่างใกล้ชิด หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา มีกลุ่มมวลชนกัมพูชา หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “แก๊งแครอท” ยังคงปักหลักอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยบางส่วนได้เข้าไปจับจองพื้นที่บริเวณวัดและสถานที่สาธารณะ พร้อมถ่ายทำคอนเทนต์เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล เพื่อสร้างกระแสและกดดันฝ่ายไทย โดยไม่ยอมสลายตัวกลับแม้จะเป็นช่วงเวลากลางคืน

การบินตรวจการณ์ในช่วงเช้านี้ พบว่าพื้นที่โดยรอบบ้านหนองหญ้าแก้วยังคงสงบเรียบร้อย ไม่ปรากฏความเคลื่อนไหวของชาวกัมพูชาหรือกองกำลังติดอาวุธที่ผิดสังเกต ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังทั้งบนพื้นดินและทางอากาศ เพื่อป้องกันการก่อกวนซ้ำ รวมทั้งคงการตรึงกำลังอย่างเข้มงวดตามแนวชายแดน เพื่อรับมือหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นอีกครั้ง


ส่วนบรรยากาศทั่วไป พบว่าประชาชนไทยในพื้นที่ยังคงใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้ามาดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้าน ขณะที่หน่วยงานด้านความมั่นคงได้รายงานสถานการณ์ต่อผู้บังคับบัญชาอย่างต่อเนื่อง และมีการเตรียมความพร้อมทั้งด้านกำลังพลและยุทโธปกรณ์หากสถานการณ์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง

จนถึงขณะนี้ สถานการณ์ยังคงอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ไทย แต่ยังต้องเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มมวลชนฝั่งกัมพูชาจะกลับเข้ามาเคลื่อนไหวอีก โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วซึ่งเป็นจุดเสี่ยงสำคัญของแนวชายแดนไทย–กัมพูชาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

...