"กองกำลังบูรพา" จับกุมชาวกัมพูชาลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ พื้นที่ อ.อรัญประเทศ อาจเชื่อมโยงเครือข่ายอิทธิพลข้าราชการในพื้นที่ 

วันที่ 12 กันยายน 2568 ทีมข่าว SEE TRUE ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ติดตามภารกิจการจับกุมชาวกัมพูชาลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติแบบผิดกฎหมาย ร่วมกับ กองกำลังบูรพา, หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ, กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และชุดปฏิบัติการข่าวที่ 2 กองกำลังบูรพา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมชาวกัมพูชากลุ่มหนึ่งได้ในพื้นที่ ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจความเรียบร้อยภายในชุมชน จู่ๆ รถเก๋งยี่ห้อมาสด้าสีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเบียนปราจีนบุรี ขับเข้ามาโดยมีลักษณะมีพิรุธ เนื่องจากภายในรถเก๋งมีกลุ่มคนทั้งชายและหญิง  7 คน รวมคนขับ นั่งเบียดกันมาเต็มคันรถ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบ นายตั้ม (นามสมมติ) อายุ 26 ปี เป็นคนขับ ส่วนที่เหลือยอมรับว่าเป็นชาวกัมพูชาที่ลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติแบบผิดกฎหมาย โดยมีนายตั้ม เป็นหนึ่งในขบวนการนำพาทางฝั่งไทย และมีหน้าที่เป็นคนขับรถไปรับทีป่าอ้อยแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ผ่านศึก เพื่อไปส่งยังจุดหมาย   

ทีมข่าว SEE TRUE คุยกับนายวี่ หนึ่งในชาวกัมพูชาที่ลักลอบข้ามแดน เล่าให้ฟังบอกว่า สาเหตุที่ลักลอบหลบหนีข้ามแดนเพราะต้องการข้ามมาหางานทำฝั่งไทย และตั้งใจว่าหากข้ามมาสำเร็จจะเดินทางไปต่อที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งชาวกัมพูชาทั้ง 6 คน เป็นญาติที่รู้จักกัน ตัดสินใจจ่ายค่าหัวให้กับขบวนการนำพาทางฝั่งไทย เบ็ดเสร็จตกคนละประมาณ 5,000 บาท แต่ท้ายที่สุดถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเอาไว้ได้เสียก่อน 

...


ขณะที่ข้อมูลจากนายตั้มคนขับรถ บอกว่า ตัวเองถูกว่าจ้างให้มาขับรถรับ-ส่ง ชาวกัมพูชากลุ่มนี้ จุดหมายเพื่อไปส่งในตลาดโรงเกลือ โดยตนเองจะได้เงินค่าส่งหัวละ 400 บาท เขายอมรับสารภาพว่าหนึ่งในขบวนการที่ว่าจ้างตนเองคือ กำนันอักษรย่อ ท. เป็นผู้ว่าจ้าง ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ไปสอดคล้องกับหลักฐานสลิปการโอนเงินค่าจ้างที่เจ้าหน้าที่พบว่านายตั้มได้มีการโอนเงินค่านำพาชาวกัมพูชาข้ามแดนให้กับกำนันคนนี้ และเมื่อตรวจสอบภาพในโทรศัพท์มือถือของนายตั้มก็พบแชทข้อความ ที่มีการส่งภาพชาวกัมพูชาอีกกลุ่มในแชทมีการระบุว่าเป็น "ลูกค้า"  โดยสถานที่ในภาพสอบถามนายตั้ม ได้รับการยืนยันว่าคือบ้านของกำนันคนเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงต้องนำไปขยายผลว่าสถานที่ดังกล่าวจะเป็นแหล่งพักคอยเตรียมลำเลียงส่งคนลักลอบข้ามแดนรายอื่นๆ อีกหรือไม่ 

ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เผยกับทีมข่าว SEE TRUE บอกว่า พื้นที่ ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นับเป็นเขตพื้นที่อิทธิพลในการลำเลียงแรงงานทั้งชาวไทยและกัมพูชาลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติแบบผิดกฎหมายแหล่งใหญ่ ถนนที่คั่นกลางพื้นที่ของตำบลแห่งนี้ นับได้ว่าเป็นเส้นเขตแบ่งพื้นที่อิทธิพลของคน 2 คน ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งถนน เป็นดินแดนติดช่องทางธรรมชาติที่ไปเอื้อประโยชน์ให้กับคนกลุ่มนี้ จึงกลายเป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถามว่าปัญหาการลักลอบข้ามแดนที่แก้ไม่ตก ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากอิทธิพลของข้าราชการท้องถิ่น ที่ขึ้นชื่อว่าข้าของแผ่นดินจริงหรือไม่ ประเด็นนี้คงต้องรอฝ่ายปกครองในพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อคลายข้อสงสัยให้กับสังคมต่อไป

อย่างไรก็ตาม วันเดียวกัน ทหารกองกำลังบูรพาพยายามแกะรอย และได้รับสายโทรศัพท์ปริศนาจากมือถือของนายตั้ม การสืบสวนสอบสวนในท้ายที่สุดทำให้ทราบว่านี่คือสายของชาวกัมพูชาที่เป็นลูกค้าของเครือข่ายกำนัน ท. อีกคน ได้ติดต่อให้นายตั้มมารับที่ตลาดโรงเกลือ เพื่อนำไปส่งกลับประเทศกัมพูชาผ่านช่องทางธรรมชาติเช่นกัน ชาวกัมพูชากลุ่มนี้ ท้ายที่สุดถูกนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เตรียมเข้าสู่กระบวนการผลักดันออกจากประเทศต่อไป รายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไร รอติดตามได้ใน SEE TRUE ออกอากาศในรายการไทยรัฐนิวส์โชว์เร็วๆ นี้