เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง ตรวจค้นตึกเช่าในพื้นที่ จ.สระบุรี ลักลอบเก็บ "บุหรี่ไฟฟ้า" ลอตใหญ่ มูลค่าการขายในท้องตลาดกว่า 100 ล้านบาท คาดเป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีการจับกุมมา

วันที่ 9 กันยายน 2568 เมื่อเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ตำรวจไซเบอร์ ร่วมบูรณาการปกครองท้องถิ่น และตำรวจวิหารแดง เข้าตรวจค้นตึกให้เช่าแห่งหนึ่ง ริมถนนสุวรรณศร ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.บ้านลำ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี หลังเจ้าหน้าที่มีการขยายผลจับกุมเอเย่นต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ จนทราบเบาะแสว่า ตึกดังกล่าวเป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดจากที่เคยมีเจ้าหน้าที่จับกุมได้ และน่าจะเป็นรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ตั้งแต่มีการจับกุมตรวจยึดมาจนถึงปัจจุบันนี้

จากการตรวจสอบตึกดังกล่าว เป็นตึก 2 ชั้น ด้านบนมีดาดฟ้า ลักษณะตึกเป็นตึกเดียว ซอยเป็นห้องๆ ชั้น 1 จำนวน 3 ห้องโถงใหญ่ ไปจนถึงชั้นที่ 2 แยกเป็นห้องรวม 4 ห้อง ซึ่งทุกห้องมีกล่องบรรจุบุหรี่ไฟฟ้า แบบชนิดเติมน้ำยาถูกเรียงทับกันเป็นชั้นๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่นำกำลังกว่า 50 นาย และกู้ภัยมูลนิธิ 20 นาย ทำการทยอยขนย้าย เพื่อตรวจนับและยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมด เก็บรักษาที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอวิหารแดง

ด้านนายวรภัทร แจ่มจันทร์ ปลัดอำเภอวิหารแดง (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) เผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจค้น ไม่พบผู้ที่เช่าตึกดังกล่าว พบเพียงเจ้าของตึกที่ให้เช่า จึงทำการสอบสวนจนทราบว่า ผู้ให้เช่าตึก คือ นายณรงค์พล ส่วนผู้เช่าตึก คือ น.ส.ศิรินภา เตชะทัต อายุ 26 ปี โดยอ้างว่า ตึกดังกล่าวเป็นที่เก็บครีมทาผิว เบื้องต้นค่าเช่าเดือนละ 10,000 บาท ตามสัญญาเช่า มี น.ส.ศิรินภา อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้เช่าตึกดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2567

...

โดยเจ้าหน้าที่สรรพสามิต และตำรวจไซเบอร์ (บก.สอท.2) ร่วมประสานฝ่ายปกครองอำเภอวิหารแดง และตำรวจ สภ.วิหารแดง ให้นำกำลังไปยังตึกดังกล่าว เพื่อตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าและชุดน้ำยาแบบใช้แล้วทิ้งจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจทั้งหมด หากเล็ดลอดเข้าจำหน่ายในท้องตลาดได้ คาดว่าจะมีมูลค่าร่วม 100 ล้านบาท เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แท้จริงของบุหรี่ไฟฟ้าล็อตดังกล่าวได้ เนื่องจากมีจำนวนมาก น้ำหนักหลายตัน ซึ่งอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ขนย้ายและตรวจนับ

นายณัฏฐคง สารชาติ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการ เผยว่า ได้เบาะแสบุหรี่ไฟฟ้าลอตใหญ่นี้ จากข้อมูลการขยายผลที่จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าได้ในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ จึงขยายผลไล่ติดตามมาจนพบว่า ตึกดังกล่าวเป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้า

ด้าน พ.ต.ท.วรศักดิ์ รอดสัมฤทธิ์ รอง ผกก.1 บก.สอท.2 ยอมรับว่าการจับกุมครั้งนี้ เป็นบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่มาก ซึ่งน่าจะมากที่สุดหลังจากมีการจับกุมมา ส่วนมูลค่าเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน แต่หากหลบเลี่ยงเข้าสู่ตลาดจำหน่ายในท้องตลาดได้ น่าจะร่วม 100 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ของกลางทั้งหมดเก็บรักษาไว้ที่หอประชุมอำเภอวิหารแดง และได้บันทึกข้อมูลบุหรี่ไฟฟ้าไว้ทั้งหมดแล้ว และแจ้งให้ผู้เช่าตึกคือ น.ส.ศิรินภา มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจวิหารแดง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมทั้งสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.