โรงเรียนเอกชนดังใน จ.อยุธยา แจงคลิปกลุ่มเจ้าหน้าที่รุมทำร้าย "เยาวชน" ยันไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมสั่งพักงานผู้ก่อเหตุแล้ว

วันที่ 17 มิ.ย. 68 จากกรณีที่โลกออนไลน์ ได้มีการแชร์คลิปกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 5-6 คน รุมทำร้ายเยาวชนชายสวมชุดนักเรียนคนหนึ่ง จนกระทั่งชาวบ้านทนเห็นเหตุการณ์ไม่ได้ วิ่งเข้ามาห้าม โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณข้างโรงเรียนดังแห่งหนึ่งใน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

ซึ่งต่อมาคุณเอ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บ ได้พาลูกชายวัย 16 เข้าแจ้งความ โดยเผยว่า ลูกชายโทรไปหาบอกแม่ว่า น้ำมันหมดอยู่หน้าโรงเรียนที่เกิดเหตุ วันนี้จะเข้าเรียนสายหน่อย ตนเองจึงสอบถามลูกว่าได้โทรแจ้งกับอาจารย์ที่โรงเรียนแล้วหรือยัง ซึ่งลูกก็บอกว่าโทรแจ้งแล้ว

จนลูกวางสายไปสักพัก ก็โทรกลับมาโดยปลายสายของลูกตะโกนบอกผ่านโทรศัพท์ว่า "ผมถูกรุมกระทืบ" แล้วก็ได้ยินเสียงลูกชายร้องโอดโอย แม่ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก จึงรีบโทรหาอาจารย์ที่ปรึกษา จากนั้นก็รีบไปรับลูก พบมีบาดแผลแตกที่บริเวณปากเลือดออกจำนวนมาก และบริเวณหลังใบหูด้านซ้าย มีร่องรอยการถูกทำร้ายช้ำแดงเป็นจ้ำ บริเวณแขนมีรอยถลอก จึงรีบพาลูกไปโรงพยาบาล จากนั้นเข้าแจ้งความ

ตอนนั้นตนเองก็ยังไม่ได้ดูคลิปเพราะทำใจไม่ได้ แต่ลูกชายเล่าให้ฟังว่า ลูกชายกับเพื่อนไปอยู่หน้าโรงเรียนดังกล่าว จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนซึ่งลูกชายบอกว่าเป็นครู มาไล่ไม่ให้ลูกชายไปจอดรถแถวหน้าโรงเรียน จากนั้นก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ตะโกนถามว่า "มึงเก๋าหรอ มองหน้าทำไม" จากนั้นชายฉกรรจ์ก็พาพวกมารุมทำร้ายลูกชายของตนเอง ตนเองยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นถึงเจ้าหน้าที่หรือครู ไม่สมควรที่จะทำกับเด็กแบบนี้ ซึ่งหากมีอะไรที่ผิดไม่เหมาะสมก็ควรจะตักเตือน ไม่ใช่มารุมกระทืบกันแบบนี้ สำหรับลูกชายก็เคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนดังกล่าว เคยเรียนตั้งแต่เนอสเซอรี่จนจบ ม.3

...

ด้านเยาวชนชาย ผู้บาดเจ็บ ยืนยันว่าไม่ได้ไปต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าหน้าที่ เพียงแต่ได้ยินว่าเจ้าหน้าที่บอกว่า "มึงมองหน้าทำไม" ซึ่งตนเองก็พยายามที่จะไม่มองหน้า จากนั้นก็บอกว่า "มึงเก๋าหรอ" สักพักหนึ่งก็เข้าไปในโรงเรียน และก็พาพวกมารุมกระทืบตนเอง จนมีชาวบ้านแถวนั้นเข้ามาช่วย

ต่อมา ทางโรงเรียนได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ตามที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเกี่ยวกับพฤติกรรมการทะเลาะวิวาทของบุคคล ซึ่งเป็นพนักงาน (ไม่ใช่ครู) ของโรงเรียน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความไม่สบายใจให้กับผู้ปกครอง นักเรียน และประชาชนทั่วไปนั้น

โรงเรียนขอเรียนชี้แจงว่า โรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ได้เข้าข้างหรือปกป้องผู้กระทำผิดแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นภายในโรงเรียน ขณะนี้โรงเรียนอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน และได้ดำเนินการส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายเข้าดำเนินการอย่างเหมาะสม

โรงเรียนขอยืนยันว่า ไม่ส่งเสริมและไม่ยอมรับพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกโรงเรียน และขอย้ำว่าพฤติกรรมที่ขัดต่อจรรยาบรรณ ศีลธรรม หรือสร้างผลกระทบต่อผู้อื่น จะต้องได้รับการดำเนินการตามกระบวนการที่เหมาะสมโดยไม่มีข้อยกเว้น

เราตระหนักดีว่าความปลอดภัย ความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นจากผู้ปกครองและสังคม คือ สิ่งสำคัญ

โรงเรียนขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความห่วงใย และจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบตามลำดับขั้นตอนต่อไป

ต่อมา ดร.สุธาทิพย์ ไชยรัตนะ ผู้อำนวยการโรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา ได้เดินทางไปพบนายอาทิตย์ ชูกิตติกุล ผู้จัดการวิทยาลัยเทคโนโลยีอยุธยา เพื่อต้องการจะพบผู้ปกครองและเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ แต่เนื่องจากเด็กมีอาการปวดศีรษะทางผู้ปกครองจึงได้พาตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกรอบ พร้อมเผยว่าทางโรงเรียนขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมจะดูแลและเยียวยาเด็ก ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองได้เรียกกลุ่มเจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนมาสอบถามเบื้องต้น

เหตุเกิดในช่วงเช้าของวันนี้แต่เป็นด้านนอกสถานศึกษา ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. เด็กนักเรียนจะต้องเข้าเรียนทั้งหมด เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนก็พยายามไปไล่เด็กให้เข้าเรียน เด็กคนเจ็บและเพื่อนมาจอดรถข้างโรงเรียน เป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่นั้นได้ออกมาไล่นักเรียนของตัวเองเข้าห้องเรียน จนเป็นเหตุให้ผู้บาดเจ็บนั้นมีการมองหน้าเจ้าหน้าที่ธุรการ จนเกิดเหตุการณ์ไม่พอใจและบานปลายจนถึงขั้นทำร้ายนักเรียนชายคนดังกล่าว ซึ่งอย่างไรก็ตามตนเองก็ไม่ได้สนับสนุนความรุนแรงเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

...

ซึ่งล่าสุดได้มีหนังสือคำสั่งพักงานเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดทั้งหมด ใครกระทำผิดอย่างไรสอบสวนเสร็จก็อาจจะมีขั้นตอนถึงการไล่ออก ส่วนในเรื่องของคดีความก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ยืนยันไม่ปกป้องผู้กระทำผิด

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ 6 ราย ได้เดินมาพบ พ.ต.ต.หญิง ลภัสกฤตา ธาระเลิศ สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา แล้ว ถูกแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อพยายามจะสอบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ได้ให้ข้อมูลอะไร เพียงพูดสั้น ๆ ยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น