ตำรวจจราจรลพบุรี โต้ปมคลิปจับ นักศึกษาขี่ จยย. ไม่สวมหมวกกันน็อก-กลับรถในที่ห้ามกลับ จนเกิดอุบัติเหตุล้มกลางถนน ด้านชาวบ้านโอดอยากให้ลดหย่อนผ่อนโทษก่อนที่จะเขียนใบสั่ง

จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปกล้องวงจรปิด บนถนนสายนารายณ์มหาราช ฝั่งขาเข้าเมือง บริเวณหน้าองค์การโทรศัพท์ ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง ลพบุรี ที่บันทึกเหตุการณ์ เมื่อเวลา 08.12 น. ได้มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน 1กศ-7852 ลพบุรี ขับขี่โดย นายชยานันต์ บัวเขียว อายุ 16 ปี เป็นนักศึกษาอยู่สถาบันแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ขับมาระหว่างกึ่งกลางถนนสองเลน ประกบคู่กับรถจักรยานยนต์ชาวบ้าน ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุล้มคว่ำไถลไปตามถนน

ระหว่างนั้นได้มี ร.ต.ท.ธีรพงษ์ ชูเกสร รอง สว.จร.สภ.เมือง ลพบุรี เดินตามเข้ามาดูจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ พร้อมประสานรถกู้ภัยฯ ให้มารับตัวคนเจ็บส่ง รพ. ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีหลายคนเข้าใจว่าทางตำรวจดังกล่าวเป็นผู้ทำให้เกิดอุบัติเหตุ แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก

(คลิกเพื่อชมโพสต์)

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริง โดยเมื่อเวลา 09.56 น. พบว่า น้องชยานันต์ พร้อมผู้ปกครอง ได้เดินทางมายัง สภ.เมือง ลพบุรี เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อเป็นหลักฐานกรณีอุบัติเหตุ ใช้ในการเบิกค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ์และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ติดใจในสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ซึ่งน้องได้รับบาดเจ็บ สามารถกลับเข้าไปเรียนได้ตามปกติ

ด้าน ร.ต.ท.ธีรพงษ์ ชูเกสร ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเวลาดังกล่าว ตนเองมีหน้าที่ตรวจสอบการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วน ขณะขับมาตามถนนนารายณ์ฝั่งขาออก รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ ได้ขับแซงตนเองไปกลับรถในที่ห้ามกลับรถที่วงเวียนศรีสุริโยทัย ตนเองขับตามไม่ทัน จึงได้จอดรถ และเดินข้ามไปอีกฝั่ง เพื่อหยุดรถคันดังกล่าวที่ขับย้อนมาเพื่อเข้าวิทยาลัย

...

ซึ่งหากหยุดรถได้ก็จะแจ้งข้อหา กลับรถในที่ห้ามกลับ ไม่สวมหมวกนิรภัย อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบถ้วน ปรากฏว่านายชยานันต์ไม่หยุด เบี่ยงรถหลบตน ทำให้รถเสียหลักได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นโซเชียลก็ด่ากระหน่ำว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งตนเองได้ชี้แจงกับผู้บังคับบัญชาแล้วถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้ตำหนินักเลงคีย์บอร์ดบางรายที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงหยาบคาย จะพิจารณาเอาผิดเป็นรายบุคคล

ด้านชาวบ้านเมืองลพบุรี เผยว่า เคยประสบพบมากับตัวเองถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเมืองลพบุรี ซึ่งมีอยู่ 2 สาขา มีจราจรเมือง และจราจรกลาง ที่ดูจะไม่เป็นมิตรกับพี่น้องประชาชน คนใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะนักศึกษาที่ไม่ค่อยใส่ใจดูแลอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ซึ่งหากถูกจับกุมแต่ละครั้ง จะต้องเสียค่าปรับครั้งละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท หากไม่มีค่าปรับ ก็ถูกยึดรถเดือดร้อนผู้ปกครองวุ่น

โดยทางชาวบ้าน ผู้ปกครองตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรบางนาย ที่จ้องจับแต่กับนักเรียนนักศึกษา จราจรบางนายดักซุ่มจับที่หน้าโรงเรียนทั้งขาเข้าขาออก จนต้องขับหนีเพราะกลัวถูกจับ ถูกยึดรถ บางรายก็เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ อยากขอความกรุณา ขอให้ว่ากล่าวตักเตือนหรือบันทึกคาดโทษไว้ กับประชาชนก็ขอให้ลดหย่อนผ่อนโทษก่อนที่จะเขียนใบสั่ง.