บุกรวบ พ.อ.อ.ลูกทัพฟ้า สวมรอยโจรควงปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ร้านทองในห้างโลตัส บางปะอิน กวาดสร้อยทอง 12 เส้น น้ำหนักรวม 160 บาท มูลค่ากว่า 7.8 ล้านบาท ตำรวจใช้เวลา 3 วัน แกะรอยวงจรปิด ได้ภาพจากกล้องหน้ารถพลเมืองดีจนพบเบาะแส ประสาน สห.ทอ.บุกจับกุมได้คาบ้านพักย่านสายไหม พร้อมสร้อยทองของกลางยังอยู่ครบทุกเส้น เจ้าตัวสังกัดกองบิน 21 เมือง อุบลฯ เข้ามาอบรมที่กรุงเทพฯ อ้างต้องการหาเงินไปใช้หนี้ 5 แสนบาท วางแผนการอย่างดีขับรถไปเดินดูลาดเลา 2 รอบก่อนลงมืออุกอาจ เตรียมหลอมทองจะเอาไปขายแต่ถูกจับกุมก่อน
จากเหตุการณ์คนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชเอเชีย ตั้งอยู่ในห้างโลตัส สาขาบางปะอิน ริมถนนสายเอเชียขาออก กม.ที่ 2 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มี.ค. โดยคนร้ายใส่หมวกสีเขียวแบบมีผ้ากันแดดปิดบังใบหน้า เสื้อแจ็กเกตสีดำ กางเกงขายาวสีเทา รองเท้าผ้าใบสีดำ เดินปรี่เข้าไปในร้าน ทำท่าจะชักปืนออกจากเอวข่มขู่พนักงานร้านให้หยิบทองรูปพรรณที่โชว์อยู่ในตู้ เป็นสร้อยคอน้ำหนัก 20 บาท 3 เส้น สร้อยคอน้ำหนัก 15 บาท 2 เส้น และสร้อยคอหนัก 10 บาท 7 เส้น รวมทั้งหมด 12 เส้น น้ำหนักรวม 160 บาท มูลค่าประมาณ 7.8 ล้านบาท ใส่ถุงผ้าที่เตรียมมาแล้วเดินออกจากห้างหลบหนีไปอย่างใจเย็น
ความคืบหน้าตำรวจใช้เวลาเพียง 3 วัน สืบสวน ติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้เป็นทหารอากาศยศพันจ่าอากาศเอก (พ.อ.อ.) อ้างหาเงินไปใช้หนี้ เมื่อช่วงสายวันที่ 27 มี.ค. ที่ สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมพวกร่วมกันแถลงผลจับกุมตัว พ.อ.อ.วรพจน์ ชูดวงแก้ว อายุ 43 ปี ทหารอากาศสังกัดแผนกขนส่ง กองบิน 21 อ.เมืองอุบลราชธานี ผู้ต้องหาบุกจี้ชิงทองรูปพรรณจากร้านทองเยาวราชเอเชีย ห้างโลตัส สาขาบางปะอิน ยึดของกลางสร้อยคอทองคำที่ชิงไปได้คืนมาทั้งหมด 12 เส้น น้ำหนักรวม 160 บาท ปืน .38 จำนวน 1 กระบอก เสื้อผ้า รองเท้า หมวกที่สวมใส่ก่อเหตุ และรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน ผน 9626 อุบลราชธานี จับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
...
พล.ต.ท.สุรพลกล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานไล่กล้องวงจรปิดภายในห้างและตามเส้นทางต่างๆเร่งหาเบาะแสคนร้าย ยอมรับว่าคนร้ายเตรียมตัววางแผนก่อเหตุและหลบหนีมาเป็นอย่างดี พบว่าเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน มีผู้ต้องสงสัยขับรถกระบะมาจอดที่ลานจอดรถแห่งหนึ่งใกล้ห้างโลตัสที่เกิดเหตุเพื่อดูลาดเลา และในวันที่ 23 มี.ค.ขับมาจอดที่เดิมแล้วเดินไปที่ห้างโลตัสก่อนบุกเข้าไปจี้ชิงทอง หลังก่อเหตุเดินออกมาว่าจ้างรถ จยย.รับจ้างให้ไปส่งใกล้กับจุดที่จอดรถ ตำรวจเฝ้าติดตามพฤติกรรมจนรู้ตัวผู้ต้องสงสัยเป็นทหารอากาศยศพันจ่าอากาศเอก รวบรวมพยานหลักฐานไปประสานกับกองทัพอากาศส่งสารวัตรทหารร่วมกับตำรวจบุกเข้าจับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่านสายไหม
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาเข้ามาฝึกอบรมในพื้นที่กรุงเทพฯ จะเดินทางกลับที่พักใน จ.อุบลราชธานี ทุกวันศุกร์ ที่ตัดสินใจลงมือก่อเหตุเนื่องจากมีปัญหาหนี้สินเกิดความเครียดหาทางออกไม่ได้ เคยมาแวะเข้าห้องน้ำที่ห้างเห็นว่ามีร้านทองอยู่ใกล้ทางเข้าออกเลยกลับไปวางแผน และกลับมาใหม่ในวันที่ 22 มี.ค.เพื่อดูลาดเลาโดยการเข้ามาซื้อสินค้าในห้าง จากนั้นวันที่ 23 มี.ค. เวลา 14.00 น. กลับมาทำทีเดินซื้อสินค้าเพื่อดูลาดเลาอีกครั้ง แล้วนำรถกระบะไปจอดในลานดินห่างจากห้างประมาณ 2 กม.เป็นจุดอับที่ตรวจสอบแล้วไม่มีกล้องวงจรปิด จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินเท้าเข้ามาชิงทอง หลังก่อเหตุว่าจ้างวิน จยย.รับจ้างไปส่งใกล้จุดที่จอดรถแล้วขับรถกระบะที่จอดไว้หลบหนีไป กระทั่งถูกตำรวจติดตามจับกุม
ผบช.ภ.1 เผยด้วยว่า เบื้องหลังการจับกุม ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิด กล้องหน้ารถ และข้อมูลของพยานที่พบรถของผู้ต้องหาที่จอดทิ้งไว้ เห็นผู้ต้องหาแต่งกายรัดกุมปิดบังใบหน้าจนเป็นที่สังเกตลงมาจากรถ จยย.รับจ้าง จนมีการสืบสวนขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมสร้อยทองของกลางกลับมาครบถ้วน จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีปัญหาเรื่องหนี้สินส่วนตัวและบุคคลใกล้ชิดประมาณ 500,000 บาท ขณะเข้าไปจับกุมพบว่าผู้ต้องหามีการสืบค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเรื่องการหลอมทอง เชื่อว่าน่าจะเตรียมหลอมทองที่ชิงมาเพื่อนำไปขายแต่ถูกตำรวจจับกุมก่อน เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร หลังสอบสวนผู้ต้องหาปฏิเสธการทำแผนฯ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ด้าน พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เผยว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 มี.ค. กองทัพอากาศได้รับการประสานงานจากตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา เพื่อขอรับการสนับสนุนเข้าร่วมปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีชิงทรัพย์ร้านทองในห้างสรรพสินค้า จ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจได้ติดตามผู้ต้องสงสัยมาจนถึงที่พักในกรุงเทพฯ การปฏิบัติงานร่วมกันของตำรวจและสารวัตรทหารอากาศ (สห.ทอ.) สามารถควบคุมตัว พ.อ.อ.วรพจน์ ชูดวงแก้ว แผนกขนส่ง กองบิน 21 ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี ผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดของกลาง ส่งมอบให้ สภ.พระอินทร์ราชา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่