รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ติดตามกรณีอุบัติเหตุ "รถบัสคว่ำ" ย้ำต้องมีการถอดบทเรียน ด้านคนขับยืนยัน เป็นเหตุสุดวิสัย พยายามจะเข้าเกียร์แล้ว แต่ทำไม่ได้
จากกรณีอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารไม่ประจำทาง 2 ชั้น เดินทางจากเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ เพื่อศึกษาดูงานที่จังหวัดระยอง ตั้งแต่วันที่ 24-28 ก.พ. 68 โดยออกเดินทางจากต้นทางในช่วงเวลา 17.00 น. และมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณหลัก กม.ที่ 210+500 ถนนสาย 304 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ขณะรถกำลังลงเขา ซึ่งเป็นทางโค้งคดเคี้ยว รถทัวร์เกิดลมเบรกหมด ไม่สามารถควบคุมรถได้ ทำให้รถเสียหลักชนกับแบริเออร์แล้วพลิกข้ามแบริเออร์ ไปชนกับเนินหินแล้วครูดไปกับเนินหินทำให้รถพัง ผู้โดยสารตกลงจากตัวรถเสียชีวิต รวม 18 ราย และบาดเจ็บ 31 ราย นั้น
ในช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ. 68 นี้ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลนาดี เพื่อพูดคุยสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางเข้ารับฟังรายละเอียดที่เกิดอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก
...
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ต้องถอดบทเรียน ให้เขามีความรู้ความเข้าใจ หลังจากประชุมแล้วยังสรุปสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุไม่ได้ ตำรวจกำลังสืบสวนหาสาเหตุอยู่ ตนยังสรุปไม่ได้ แต่จากที่ผู้ใช้ถนนขับขี่เส้นทางนี้บ่อยๆ จะขับรถเกินเกียร์ 2 ไม่ได้ เกินเกียร์ 2 ต้องเหยียบเบรกไว้ แต่หากจะให้ปลอดภัยต้องขับเกียร์ 1 อาจจะเกี่ยวกับการขับขี่และเป็นทางลาดชัน
ส่วนตัวคิดว่าเกิดจากความไม่ชำนาญในการขับขี่ แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ก็ต้องไปศึกษาเป็นบทเรียน แต่บริเวณนี้เป็นเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เวลาทำอะไรมันจะติดกฎหมายหลายตัว และจากที่แจ้งถนนเป็นทางลาดชัน หากใช้ความเร็วเกินกว่ากำหนด บางครั้งเบรกอาจจะไม่อยู่ เขาถึงให้ใช้เกียร์ต่ำ แต่ถ้าใช้ความเร็วเกินกำหนดอันนี้ก็คือเป็นประมาทในการขับขี่
แต่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนว่า รถทัวร์ดังกล่าว เดินทางมาดูงานกัน ต้นทางมาจาก จ.บึงกาฬ จะเดินทางไป จ.ระยอง พอเกิดเหตุ ทางบึงกาฬก็มีการประชุม เพื่อดูกฎหมายการคุ้มครองว่ามีอะไรบ้าง แต่ก็จะช่วยเหลือให้ดีที่สุด และเร็วที่สุด แต่เบื้องต้นทราบว่ามีประกันรถอยู่ ตัวเลขคร่าวๆ ที่ยังไม่แน่ชัด สำหรับผู้เสียชีวิตประมาณล้านเศษ แต่ในส่วนอื่นอาจต้องดูต่อไป
ต่อมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พนักงานสอบสวน สภ.วังขอนแดง และผู้อำนวยการแขวงทางหลวงจังหวัดปราจีนบุรี จากการลงพื้นที่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่าบริเวณเส้นทางจากจุดสกัดผางามมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางลาดชันมาก ซึ่งมีความจำเป็นต้องมีป้ายแจ้งเตือนการใช้เกียร์ในขณะลงเขา รวมทั้งจุดพักรถเพิ่มเติม
ด้าน นายนาวิน ชูปัญญา คนขับรถทัวร์ กล่าวว่า ช่วงลงมาจากเขา ก่อนเกิดเหตุเราพยายามจะเข้าเกียร์ให้ได้แต่ก็เข้าไม่ได้เบรกมันค้าง สุดวิสัยจริง ๆ พยายามทำแล้ว ทำไม่ได้ ตนก็เลยหักออกซ้ายชนเข้ากำแพงแบริเออร์เลย ก่อนที่เราจะออกงานเราจะเช็ครถก่อนทุกครั้ง ตนก็ไม่ทราบเรื่องอาถรรพ์ของที่แห่งนี้ ตอนขับมาออกจากที่บึงกาฬ ตนมาก็ขับมาปกติ แล้วก็มาเกิดเหตุที่ตรงนี้มันสุดวิสัย
ด้าน นายวัชรพล ศรีอวน นายก อบต.นาดี กล่าวถึงความเป็นมาของศาลปู่โทนแห่งนี้ว่า ความเป็นมาของศาลปู่โทนแห่งนี้ เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านและผู้ที่สัญจรไปมา เปรียบเสมือนศาลโทน ตำนานที่เขาเล่ากันมาว่า ทุกคนว่ามันเป็นเหมือนกับเจดีย์ รถทุกคันที่วิ่งมาจะต้องกดแตรเป็นสัญลักษณ์ ได้ทำการกราบไหว้บูชาและเพื่อบอกว่าลูกช้างได้ผ่านถนนเส้นนี้ ก็ขอให้เดินทางปลอดภัย
...
ส่วนใหญ่ตนก็จะเดินทางขึ้นลงอยู่ตลอด ตนยังกดแตรและยกมือไหว้ทุกครั้งที่ผ่านไป เดิมตรงนี้ก็ร่ำลือมาค่อนข้างเยอะตั้งแต่ตนมาอยู่ที่นี่เมื่อปี 2528 ผมก็ได้ยินเรื่องราวเลย ตั้งแต่ถนนที่ยังไม่มีการขยายผิวการจราจร ที่มาที่ไปผมก็ยังไม่ค่อยแน่ชัดแต่ทุกคนต้องรู้คำว่าศาลโทนที่ผ่านไปผ่านมา และเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุและเป็นจุดที่สำคัญ รถทุกคันวิ่งผ่านไปผ่านมาจะต้องกดแตรและยกมือไหว้ทุกคน เป็นการคารวะพื้นที่ที่จะต้องผ่านไป เส้นทางเส้นนี้ก็ได้ปรับปรุงดีขึ้นเยอะ แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็เกิดจากการไม่ชำนาญเส้นทาง อาจจะใช้เกียร์สูงลงเขา มันก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุก็ได้ ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่าเส้นทางเส้นนี้ค่อนข้างที่จะเฮี้ยนในเรื่องการสัญจรผ่านไปผ่านมาถ้าเกิดว่าท่านใดไม่เชื่อฟังเป็นการที่ไม่สนใจก็มีโอกาสเขาก็ลือกันมาอย่างนี้แต่ทุกครั้งที่ผมไปผมก็ต้องยกมือไหว้ทุกครั้ง.