คู่กรณีเปิดหลักฐาน โต้สองยายเผาพริกเผาเกลือแช่ง หายึดบรรพบุรุษ ลานกางเต็นท์ ร้านหมูกระทะ ริมแม่น้ำแม่กลอง อ.ท่าม่วง ยืนยันได้ที่ดินมาอย่างถูกต้อง ไม่ได้แย่งชิงใครมา พร้อมต่อสู้พิสูจน์ความจริงในชั้นศาล และให้อภัยสองคุณยาย เผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง 


กรณี นางสมบูรณ์ เจริญพร อายุ 73 ปี และนางนารี สารทเวช อายุ 73 ปี ร่วมกันเอาพริกเอาเกลือมาเผาในเตาถ่านที่ไฟกำลังลุกไหม้เพื่อเป็นการระบายความคับแค้นใจ และสาปแช่งกลุ่มนายทุน ที่เข้ามาบุกรุกยึดที่ดินบรรพบุรุษของครอบครัวตนเอง บริเวณหมู่ 3 ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ริมแม่น้ำแม่กลอง ปลูกสร้างร้านกาแฟ เปิดลานกางเต็นท์และร้านหมูกระทะให้บริการกับนักท่องเที่ยวใหญ่โตเป็นล่ำเป็นสัน ทั้งๆ ที่ที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ เป็นที่ดินที่พวกตนได้รับต่อมาจากบรรพบุรุษ (ตามคำกล่าวอ้างของยายทั้งสอง) 


ล่าสุด เวลา 10.00 น. วันที่ 8 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังแปลงที่ดินที่สองคุณยายอ้างว่าถูกกลุ่มนายทุนบุกยึด และมีการสร้างร้านหมูกระทะ ร้านกาแฟ รวมถึงเปิดเป็นลานกางเต็นท์ได้พบกับ นางเกษราภรณ์ ฉุนโต อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านหมูกระทะ ลานกางเต็นท์และร้านกาแฟ โดยนางเกษราภรณ์ ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน ถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวดังกล่าวออกไป และทางคุณยายทั้งสองคนกล่าวหาว่าพวกตนเป็นกลุ่มนายทุนที่เข้ามาบุกยึดที่ดินของคุณยายทั้งสองคนไปอย่างไม่เป็นธรรมนั้น ทำให้ตนและครอบครัวถูกกระแสสังคมโจมตีอย่างหนัก ซึ่งในเรื่องนี้ ขอยืนยันว่า ตนและครอบครัวเองก็เป็นคนในพื้นที่ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี มาตั้งแต่เกิด ไม่ได้เป็นกลุ่มนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลที่เข้ามาแย่งที่ดินจากคุณยายทั้งสองคนแต่อย่างใด 

...


พร้อมกันนี้ นางเกษราภรณ์ ได้นำเอกสารจากกรมชลประทาน สมัยที่มีการเวนคืนที่ดิน บริเวณริมแม่น้ำแม่กลองเพื่อก่อสร้างเขื่อนแม่กลอง เมื่อปี 2532 ซึ่งได้ระบุชื่อเจ้าของผู้ครอบครองที่ดิน ทั้ง 3 แปลงที่เกิดข้อพิพาทกันขึ้น ประกอบด้วย แปลงที่ 1 เนื้อที่ 1 ไร่ ระบุชื่อผู้ครอบครอง คือ นางสมบูรณ์ ซิมแข แปลงที่ 2 เนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน ระบุชื่อผู้ครอบครองคือ นายเลอชัย บัวลังกา และแปลงที่ 3 เนื้อที่ 1 ไร่ ระบุชื่อผู้ครอบครอง คือ นางดำ วรรณวงศ์ ซึ่งในการก่อสร้างเขื่อนแม่กลองเมื่อปี 2532 ทางกรมชลประทานได้มีการเวนคืนที่ดิน ทั้ง 3 แปลงพร้อมจ่ายเงินค่าเวนคืนให้กับเจ้าของที่ดินทั้ง 3 แปลงไปเรียบร้อยแล้ว กระทั่งหลังการก่อสร้างเขื่อนแม่กลองเสร็จเรียบร้อย พื้นที่ทั้ง 3 แปลงซึ่งไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์ก็ถูกส่งมอบคืนให้กับกรมธนารักษ์ และกรมธนารักษ์ได้เปิดให้ประชาชนซึ่งมีชื่อเป็นผู้ครอบครองอยู่เดิมสามารถเข้ามาขอเช่าพื้นที่เพื่อทำมาหากินและทำการเกษตรได้ 


โดยในที่ดินแปลงที่ 3 ซึ่งเป็นชื่อของ นางดำ วรรณวงศ์ แม่ของนางสมบูรณ์ เจริญพร อายุ 73 ปี ที่ออกมาร้องเรียนกับสื่อมวลชนนั้น ทางกรมธนารักษ์ก็ได้ให้ทางครอบครัวของนางสมบูรณ์ เช่าพื้นที่ทำกินไปตามปกติโดยที่ฝั่งของพวกตนไม่ได้เข้าไปรุกล้ำหรือบุกรุกแย่งชิงที่ดินมาแต่อย่างใด เพราะที่ดินที่ตนและครอบครัวเข้ามาเช่าและสร้างร้านหมูกระทะ กาแฟ รวมถึงลานกางเต็นท์นั้น เป็นที่ดินในแปลงที่ 1 และ 2 ที่มีชื่อผู้ครอบครอง คือนางขวัญเมือง ซิมแข และนายเลอชัย บัวลังกา โดยหลังจากที่กรมชลประทาน เปิดให้ประชาชนผู้มีชื่อครอบครองที่ดินเดิมสามารถยื่นเรื่องขอเช่าที่กับกรมชลประทานเพื่อเข้ามาทำมาหากินได้นั้น ในที่ดินแปลงที่ 1 ซึ่งเป็นของ นางขวัญเมือง ซิมแข เป็นแม่ของ นางนารี สารทเวช หนึ่งในสองคุณยายที่ออกมาร้องขอความเป็นธรรม ได้ให้สิทธิ์กับนายมานพ เกตุบุตร ซึ่งเป็นพี่น้องกับนางนารี เข้ามาปรับพื้นที่และทำการเกษตร กระทั่งในเวลาต่อมา นายมานพ มีปัญหาเรื่องการเงินจึงได้นำเอาที่ดินแปลงที่ 1 มาขายให้กับแม่ของตน โดยมีหนังสือยืนยันการซื้อขายเป็นหลักฐานสำคัญที่ตนใช้แสดงถึงการได้มาครอบครองที่ดินแปลงที่ 1 อย่างถูกต้อง ส่วนที่ดินแปลงที่ 2 ในชื่อของ นายเลอชัยนั้น หลังกรมชลประทาน เปิดให้ผู้ครอบครองเดิมมาลงชื่อขอเช่าที่ดิน ปรากฏว่านายเลอชัยและครอบครัวไม่ได้มาแสดงความจำนงขอเช่าพื้นที่และปล่อยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รกร้าง ทางแม่ของตนจึงได้ไปทำเรื่องขอเช่าพื้นที่แปลงที่ 2 กับทางกรมชลประทานด้วย


หลังจากนั้น ทางกรมชลประทานส่งมอบพื้นที่ที่ถูกเวนคืน ให้กับกรมธนารักษ์เป็นผู้ดูแล แม่ของตนก็ได้ไปทำเรื่องขอเช่าที่ดินในแปลงที่ 1 และ 2 กับกรมธนารักษ์อย่างถูกต้อง แต่ติดปัญหาเนื่องจากมีข้อพิพาทกับครอบครัวของนางสมบูรณ์ เจริญพร ซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดินแปลงที่ 3 จนทำให้ในปัจจุบันทางกรมธนารักษ์ยังไม่สามารถออกหนังสือเช่าที่ดินทั้ง 2 แปลงให้กับตนได้


ทั้งนี้ ยืนยันว่า การได้มาซึ่งที่ดินแปลงที่ 1 และ 2 เป็นไปอย่างถูกต้องไม่ได้เป็นการไปยึดมาจากผู้ถือครองรายเดิมแต่อย่างใด อีกทั้ง ที่นางสมบูรณ์ เจริญพร อ้างว่า ตนไปบุกรุกที่ดินแปลงที่ 3 ของนางสมบูรณ์ด้วยนั้น ตนก็ได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ให้มาสำรวจพื้นที่และรังวัดขนาดที่ดินทั้ง 3 แปลงเรียบร้อยแล้วก็ไม่ปรากฏว่ามีการรุกล้ำเข้าไปในที่ดินแปลงที่ 3 ของนางสมบูรณ์แต่อย่างใด โดยที่ตนและครอบครัวพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองที่ดินทั้งสองแปลงของตน ส่วนเรื่องที่ นางสมบูรณ์ เจริญพร และนางนารี สารทเวช ออกมาให้ข่าว ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง รวมถึงทำพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งตนเองและครอบครัวนั้น ตนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรและพร้อมที่จะให้อภัย โดยเชื่อว่าผลของการเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งก็จะไปตกอยู่กับผู้ที่กระทำการอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งไม่ใช่ตนเองและครอบครัวอย่างแน่นอน


นางเกษราภรณ์ ยังได้กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ อยากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดำเนินการหาข้อสรุปเรื่องที่ดินที่ตนปลูกสร้าง ร้านกาแฟและลานกางเต็นท์นี้ให้เรียบร้อย เพื่อที่ตนจะได้สามารถดำเนินการทำเรื่องเช่าพื้นที่กับกรมธนารักษ์ได้อย่างถูกต้องเรียบร้อยและขอฝากร้านมาปิ้งกาญจน์ เปิดตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม หยุดทุกวันพุธ ส่วนร้านกาแฟเปิดทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม สามารถเดินทางมาถนนเส้นวัดม่วงชุมไปวัดนางโน ถนนเลียบริมแม่น้ำแม่กลอง ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี  

...