ขนาดนั้นสำคัญไฉน สองหนุ่มคนงานเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง ตกเย็นนั่งก๊งเหล้าขาว พูดอวดว่า "เมียใครใหญ่กว่ากัน" นานเข้าเริ่มไม่เข้าหู ข่มกันไปมา สุดท้ายหนุ่มลาวคว้ามีดฟันหนุ่มไทยวัย 48 จนหูซ้ายเกือบขาด หัว แขน มีแผลฉกรรจ์

เวลา 21.00 น. วันที่ 4 ก.ค. 67 ร.ต.ท.กฤษณะ สมอารมณ์ สายตำรวจตำบลคลองหลวงแพ่ง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุกลุ่มคนงานเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งฟันกัน มีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรารุดเข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ บริเวณร้านค้ากลางซอย ถนนเรียบคลองเจ้า ม.9 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านขายของชำ พบผู้บาดเจ็บเพศชาย ทราบชื่อต่อมาคือนายหน่อย อายุ 48 ปี ชาว ต.กุดชมภู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี อยู่ในอาการซึมและเมา มีบาดแผลขนาดใหญ่จากการถูกมีดฟันบริเวณหูซ้ายจนเกือบขาด กลางศีรษะมีบาดแผลยาวประมาณ 10 เซนติเมตร และแขนซ้ายถูกฟันลึกจนเห็นเส้นเอ็น เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรารีบทำการปฐมพยาบาล ก่อนเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร

ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายน้อง ชาวลาว อายุประมาณ 35 ปี หลบหนีไป ซึ่งทั้งสองเป็นคนงานเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง จึงเข้าไปยังที่พักคนงานเลี้ยงเป็ดกลางทุ่งนา ห่างจากร้านค้าประมาณ 300 เมตร ลักษณะปลูกเป็นเพิงพักชั่วคราวและเต็นท์สำเร็จรูป พบขวดเหล้าขาวที่กลุ่มคนงานนั่งกินกันอยู่ก่อนหน้านี้ แต่ไม่พบอาวุธมีดที่นายน้องใช้ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะนำติดต่อไปด้วยขณะที่วิ่งหลบหนี

สอบถามนายจ่อย หนึ่งในคนงานเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง ที่ยังอยู่ในอาการมึนเมา พอจับใจความได้ว่า ตนเองเลี้ยงให้นายจ้างอยู่ตรงนี้มานานแล้ว แต่นายหน่อย ผู้บาดเจ็บ และนายน้อง ผู้ก่อเหตุ เพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ได้ 2-3 วัน เลี้ยงเป็ดกันคนละที่ แต่เป็ดเหลือน้อย นายจ้างจึงให้ทั้ง 2 มารวมเลี้ยงเป็ดที่เดียวกับตน ซึ่งทุกเย็นพวกตนก็จะตั้งวงกินเหล้ากัน พูดคุยตามประสาชายหนุ่ม จนวันนี้มีการพูดถึงเมียที่อยู่ที่บ้าน ก่อนจะลุกลามโอ้อวดกัน ว่าอวัยวะในร่มผ้าของเมียใครใหญ่กว่ากัน ซึ่งนายหน่อยและนายน้อยก็คุยอวดเมียของตัวเอง โดยไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายเริ่มมีปากเสียงทะเลาะกัน ซึ่งตอนฟันกันนั้นตนเองไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะเดินออกมาปัสสาวะ ได้ยินเสียงร้องก่อนที่นายหน่อยจะวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือที่ร้านค้า ส่วนนายน้อยวิ่งเข้าไปเก็บสัมภาระในเต็นท์ ก่อนจะวิ่งหนีหายไปในความมืด

...